ไมโครเวฟ

10 สุดยอดไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดี ที่คุณต้องมีประจำปี 2022

การทำอาหารในยุคปัจจุบันนั้นมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกประเภทต่างๆ ที่เข้ามาช่วยให้การทำอาหารมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่ง “ไมโครเวฟ” คืออุปกรณ์อีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยม สามารถใช้ในการทำอาหารได้หลากหลายประเภท อีกทั้งยังเข้ากับการใช้ชีวิตในยุคที่มีแต่ความเร่งรีบได้เป็นอย่างดี เนื่องจากใช้งานง่าย ใช้อุ่นอาหารได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยประหยัดเวลาในการทำอาหารได้อีกด้วย

ลองมาดูกันว่าสำหรับปี 2022 มีไมโครเวฟรุ่นไหนบ้างที่ควรมีไว้ใช้งาน

1

SHARP R-390I 

ประหยัดเวลาในการทำอาหารได้ถึง 19% 

สำหรับ SHARP R-390I เป็นไมโครเวฟระบบ Inverter ขนาด 32 ลิตรที่เหมาะสมจะมีไว้ใช้งานค้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากเครื่องรุ่นนี้สามารถช่วยให้การทำอาหารใช้เวลาน้อยลงถึง 19% ด้วยระบบ Sensor Cook นอกจากนี้ยังใช้ทำอาหารได้หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นการอุ่นอาหาร / ต้ม / นึ่ง / ทอด / ผัด พร้อมเมนูทำอาหารอัตโนมัติถึง 31 เมนู มีระบบจานหมุนสัมพันธ์ที่จะช่วยให้อาหารสุกทั่วถึงกัน อีกทั้งยังสามารถปรับระดับกำลังได้ถึง 3 ระดับระหว่างการทำอาหารเพื่อให้ได้ความสุกในแบบที่ต้องการ


2

Samsung MS28H5125BK/ST 

เรียบหรู ทนทาน ทำความสะอาดง่าย 

Samsung MS28H5125BK/ST เป็นไมโครเวฟขนาด 28 ลิตรอีกหนึ่งรุ่นที่มีรูปทรงสวยงามสะดุดตา และยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ตรวจจับความชื้นอัจฉริยะที่จะตั้งเวลา และตั้งระดับความในอุ่นอาหารแบบอัตโนมัติให้เหมาะสมกับอาหารแต่ละประเภท ควบคุมการทำงานได้อย่างสะดวกผ่านหน้าจอ Ice blue ผิวด้านในทำจากเซรามิค ทำความสะอาดง่าย พร้อมระบบ Steam Clean ที่ทำความสะอาดด้วยไอน้ำ ลดการเติบโตของแบคทีเรียได้ถึง 95%


3

LG MJ3965ACS

ขนาดใหญ่จุใจ รองรับการทำงานที่หลากหลาย 

สำหรับ LG MJ3965ACS เป็นไมโครเวฟขนาดใหญ่ที่มีขนาดความจุถึง 39 ลิตร ซึ่งมาพร้อมกับหลากหลายฟังก์ชั่นในการทำงาน ที่จะช่วยให้การทำอาหารหลากหลายประเภทเป็นไปได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นระบบ “Smart Inverter” และ “NeoChef” ที่จะช่วยให้อาหารสุกได้รวดเร็วขึ้นจากการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม อีกทั้งยังสามารถทำอาหารเพื่อสุขภาพประเภทต่างๆ ได้จากระบบ “Healthy Roasting” และ “Healthy Fry” ซึ่งจะลดไขมันส่วนเกินในอาหารลงถึง 72%


4

Toshiba ER-SS23(K)TH 

ขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะกับครัวขนาดเล็ก 

Toshiba ER-SS23(K)TH เป็นไมโครเวฟขนาด 23 ลิตร ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะกับครัวที่มีขนาดเล็ก แต่ก็เพียบพร้อมไปด้วยประสิทธิภาพในการทำงานหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นระบบอุ่นอาหารอัจฉริยะ Express Cook ที่สั่งการด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว ปรับระดับความร้อนได้ถึง 11 ระดับเพื่อให้เหมาะสมกับการทำอาหารแต่ละประเภท พร้อม 6 โปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติที่จะช่วยให้การทำอาหารประเภทต่างๆ กลายเป็นเรื่องง่าย

5

Electrolux EMM20K18GWI 

ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก มีความปลอดภัย 

สำหรับ Electrolux EMM20K18GWI เป็นไมโครเวฟอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจจาก Electrolux ซึ่งจุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้คือควบคุมการทำงานได้ง่ายจากระบบมือหมุน ไม่ซับซ้อน นอกจากนี้ยังใช้กระจกนิรภัย Tempered Glass ที่ทนทานต่อแรงกระแทกเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน สามารถปรับความร้อนได้ 5 ระดับช่วยให้ทำอาหารได้หลากหลายประเภทอย่างมืออาชีพ มีระบบละลายน้ำแข็งสำหรับการอุ่นอาหารแช่แข็ง

6

Panasonic NN-DF383B

มีระบบ Double Heater เพื่อให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง 

สำหรับ Panasonic NN-DF383B เป็นไมโครเวฟอีกหนึ่งรุ่นที่จะช่วยให้การทำอาหารประเภทต่างๆ กลายเป็นเรื่องง่าย เครื่องรุ่นนี้ทำงานด้วยระบบ Invertor ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน มีระบบ Double Heater ที่ปล่อยความร้อนออกมาจากด้านล่าง และด้านบนทำให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง รวมไปถึงระบบอุ่นอาหารอัจฉริยะที่สามารถอุ่นอาหารได้เพียงการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว พื้นผิวภายในทำความสะอาดได้ง่ายเนื่องจากเคลือบด้วยฟลูออรีน ควบคุมการทำงานได้อย่างสะดวกผ่านหน้าจอแสดงผลแบบ LCD

7

SHARP R-2200F-S

เปิดปิดง่าย ทำอาหารได้หลากหลายชนิด 

SHARP R-2200F-S เป็นไมโครเวฟขนาด 20 ลิตร ซึ่งมีความโดดเด่นด้วย Top Handle Design ที่ช่วยให้การเปิด / ปิด ทำได้ง่ายขึ้น ใช้กำลังไฟ 800 W สามารถปรับความร้อนได้ถึง 5 ระดับ ช่วยให้ทำอาหารได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ต้ม / อบ / ตุ๋น / นึ่ง พร้อมระบบละลายน้ำแข็ง ควบคุมการทำงานได้ง่าย และไม่ซับซ้อนด้วยระบบปุ่มหมุน

8

TOSHIBA ER-SM20

ปรับความร้อนได้ 5 ระดับ ช่วยให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่าย 

สำหรับ TOSHIBA ER-SM20 เป็นไมโครเวฟขนาด 20 ลิตร ใช้กำลังไฟ 800W ที่เหมาะสำหรับห้องครัวขนาดเล็กด้วยขนาดเพียง 44 x 32.5 x 25.8 เซนติเมตร ควบคุมการทำงานด้วยระบบปุ่มหมุนทำให้ใช้งานได้ง่าย ไม่มีความซับซ้อน สามารถปรับระดับความร้อนได้ถึง 5 ระดับ ช่วยให้การทำอาหารประเภทต่างๆ กลายเป็นเรื่องง่าย มาพร้อมระบบจานหมุนแบบสัมพันธ์ซึ่งจะช่วยให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง มีระบบละลายน้ำแข็งที่จะช่วยอุ่นอาหารแช่แข็งได้อย่างรวดเร็ว

9

LG MH6535GIS 

ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบ Smart Inverter 

LG MH6535GIS เป็นไมโครเวฟขนาด 25 ลิตร ที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบ Smart Inverter ซึ่งจะช่วยให้การทำอาหารมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ประหยัดเวลา ประหยัดพลังงาน สามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภทด้วยระบบ Multi Function ที่มาพร้อม Quartz Heater ที่เร่งความร้อนได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการทำอาหารประเภทปิ้ง / ย่าง โดยเฉพาะ จานหมุนเป็นแบบ 6 เหลี่ยมที่หมุนได้อย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด ไม่กระดก ภายในเคลือบด้วย Easy Clean ทำความสะอาดได้ง่าย ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส

10

SAMSUNG MS23K3513AW/ST

ครบครันทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน 

สำหรับ SAMSUNG MS23K3513AW/ST เป็นไมโครเวฟขนาด 23 ลิตร ใช้กำลังไฟ 1,150W ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานมาให้อย่างหลากหลาย ช่วยให้การทำอาหารทุกประเภทกลายเป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะการทำอาหารไทย โดยเครื่องรุ่นนี้มีโปรแกรมอัตโนมัติสำหรับการทำอาหารไทยถึง 24 โปรแกรม สามารถทำอาหารเพื่อสุขภาพแบบนึ่ง หรืออบน้ำได้แบบง่ายๆ ด้วยระบบ “Healthy Steam” และ “Glass Steamer” มีระบบ “Quick Defrost” ที่ช่วยละลายน้ำแข็งได้อย่างรวดเร็ว ภายในตัวเครื่องเคลือบด้วยเซรามิค ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน และช่วยให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่าย

วิธีการเลือกซื้อไมโครเวฟ

  • เลือกจากความจำเป็นในการใช้งาน การเลือกไมโครเวฟเพื่อนำมาใช้งานนั้นสิ่งแรกที่ควรนำมาประกอบการตัดสินใจคือความจำเป็นในการใช้งาน เพราะแต่ละคนมีความต้องการ และรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งบางคนอาจจะต้องการไมโครเวฟมาใช้งานเพื่อประกอบอาหารประเภทต่างๆ แต่บางคนต้องการไมโครเวฟมาใช้งานเพียงแค่ใช้อุ่นอาหารแช่แข็ง ซึ่งเมื่อรู้ว่าต้องการไมโครเวฟมาใช้งานในรูปแบบไหนก็จะสามารถเลือกไมโครเวฟที่เหมาะสมมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง 
  • เลือกจากขนาดของไมโครเวฟ ขนาดของไมโครเวฟแต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานประเภทต่างๆ นั่นเอง ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจซื้อไมโครเวฟมาใช้งานควรพิจารณาถึงขนาดของไมโครเวฟด้วย ซึ่งขนาดของไมโครเวฟควรจะมีความสัมพันธ์กับขนาดของพื้นที่ซึ่งจะวางไมโครเวฟนั่นเอง ถ้าไมโครเวฟมีขนาดที่ใหญ่เกินไปก็จะทำให้มีความเกะกะ ซึ่งขนาดของไมโครเวฟยังเกี่ยวข้องถึงรูปแบบการใช้งานด้วย ถ้าใช้งานเพียงแค่อุ่นอาหาร หรือเป็นครอบครัวขนาดเล็ก การเลือกใช้ไมโครเวฟขนาดเล็กที่มีความจุไม่เกิน 20 ลิตรก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่ ทำอาหารบ่อย ก็ควรเลือกไมโครเวฟที่มีความจุมากกว่า 20 ลิตร 
  • เลือกจากฟังก์ชั่นต่างๆ ไมโครเวฟในปัจจุบันนั้นมีฟังก์ชั่นต่างๆ ติดตั้งมาให้เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งในไมโครเวฟแต่ละรุ่นก็จะมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งฟังก์ชั่นพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีสำหรับไมโครเวฟคือฟังก์ชั่นละลายน้ำแข็ง / อุ่นอาหาร ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆ อย่างเช่นการปรุงอาหารอัตโนมัติ หรือการทำความสะอาดตัวเองก็อยู่ที่ความเหมาะสม และความชอบ ดังนั้นการเลือกไมโครเวฟเพื่อนำมาใช้งานควรมองถึงเรื่องฟังก์ชั่นเสริมที่มีมาให้ด้วย 
  • เลือกจากกำลังไฟ สำหรับกำลังไฟของไมโครเวฟนั้นจะขึ้นอยู่กับขนาด และฟังก์ชั่นต่างๆ ที่มีอยู่ในไมโครเวฟแต่ละรุ่นนั่นเอง ซึ่งกำลังไฟเริ่มต้นของไมโครเวฟจะอยู่ที่ 800W ซึ่งการที่ไมโครเวฟนั้นมีกำลังไฟมากก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำอาหารได้มากยิ่งขึ้น แต่การใช้กำลังไฟมากก็จะทำให้เสียค่าไฟมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นการเลือกซื้อไมโครเวฟจึงจำเป็นต้องเลือกกำลังไฟให้เหมาะสม 
  • ต้องทำความสะอาดง่าย การทำอาหารทุกประเภทนั้นย่อมมีความเลอะเทอะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งการทำอาหารด้วยไมโครเวฟก็เช่นกัน ดังนั้นการเลือกซื้อไมโครเวฟเพื่อนำมาใช้งานควรพิจารณาในเรื่องการทำความสะอาดด้วย ไมโครเวฟบางรุ่นจะมีการเคลือบสารต่างๆ มาให้ภายในตัวเครื่อง เพื่อให้การทำความสะอาดทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และบางรุ่นอาจมีฟังก์ชั่นการทำความสะอาดด้วยตัวเองเสริมมาให้เพื่อช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการเลือกซื้อไมโครเวฟสิ่งที่จำเป็นต้องพิจารณาอีกหนึ่งเรื่องความสะดวกในการทำความสะอาดนั่นเอง

คำถามที่พบบ่อยของไมโครเวฟ

หลายๆ คนยังสงสัย และไม่เข้าใจว่าไมโครเวฟคืออะไร และมีหลักการทำงานอย่างไร ซึ่งไมโครเวฟนั้นคือคลื่นประเภทหนึ่ง ซึ่งมีความถี่อยู่ในตัวเอง หลักการทำงานคือจะใช้คลื่นไมโครเวฟส่งเข้าไปยังอาหารที่ต้องการ โดยตัวคลื่นจะเข้าไปสั่นสะเทือนโมเลกุลของอาหาร ทำให้โมเลกุลของอาหารเกิดความร้อน ซึ่งก็จะทำให้อาหารสุกนั่นเอง

หลายคนรู้ว่าไมโครเวฟนั้นห้ามใส่โลหะประเภทต่างๆ เข้าไปภายในไม่ว่าจะเป็นช้อนส้อมโลหะ จานอะลูมิเนียม หรือแม้กระทั่งฟอยล์ห่ออาหาร เพราะว่าความร้อนที่เกิดขึ้นในไมโครเวฟจะทำให้โลหะเหล่านั้นมีความร้อนสะสมที่สูงมาก จนบางครั้งทำให้เกิดประกายไฟขึ้นมานั่นเอง ซึ่งจะเป็นสาเหตุทำให้ไมโครเวฟเกิดความเสียหาย รวมไปถึงอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างเช่นไฟไหม้ได้ ดังนั้นจึงไม่ควรใส่โลหะประเภทต่างๆ เข้าไปในไมโครเวฟอย่างเด็ดขาด

ไมโครเวฟนั้นเป็นอุปกรณ์อีกหนึ่งประเภทที่ต้องควรมีการดูแลรักษาให้ถูกวิธี เพื่อที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานออกไป โดยการดูแลรักษาไมโครเวฟนั้นก็ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เริ่มต้นด้วยการรักษาความสะอาดภายในไมโครเวฟเป็นประจำ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานเสร็จควรทำความสะอาดภายในไมโครเวฟให้เรียบร้อย เพื่อลดคราบสกปรกต่างๆ และกำจัดไม่ให้มีกลิ่นตกค้างนั่นเอง นอกจากนั้นยังควรทำความสะอาดภายนอกของไมโครเวฟด้วย เพื่อไม่ให้ฝุ่นสะสมอยู่ด้านนอกตัวเครื่อง และการนำภาชนะต่างๆ เข้าไปในไมโครเวฟควรจะเป็นภาชนะที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้เท่านั้น เพื่อที่จะได้ไม่มีสารตกค้างจากภาชนะติดอยู่ในอาหาร และยังช่วยให้ไมโครเวฟไม่ชำรุดได้ง่ายอีกด้วย และที่สำคัญคือเมื่อนำอาหารใส่ภาชนะต่างๆ เข้าไปในไมโครเวฟควรปิดฝาภาชนะให้เรียบร้อย ก็จะสามารถลดความสกปรกภายในของไมโครเวฟได้เป็นอย่างดี

แหล่งอ้างอิง

https://kb.psu.ac.th

https://www.phtnet.org

http://www.thaiphysoc.org

Scroll to Top