ไฟจักรยาน

10 สุดยอดไฟจักรยาน ยี่ห้อไหนดี ที่คุณต้องมีประจำปี 2022

สำหรับกิจกรรมการขี่จักรยานนั้นเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ซึ่งการขี่จักรยานให้มีความปลอดภัย และลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้นั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ “ไฟจักรยาน” นั่น ซึ่งการติดไฟทั้งด้านหน้า และไฟด้านหลังเป็นเรื่องที่จักรยานทุกคันจำเป็นต้องทำ เพราะนอกจากจะช่วยให้มีความปลอดภัยของตัวเองเพิ่มมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับเพื่อนร่วมทางด้วย ในปี 2022 ไฟจักรยานรุ่นไหนบ้างที่ควรมีไว้ใช้งาน

ลองมาดูกันว่า 10 อันดับไฟจักรยาน แต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ

1

ROCKBROS

ปรับไฟได้ 3 ระดับ ใช้งานได้หลายรูปแบบ

สำหรับ ROCKBROS เป็นไฟจักรยานแบบไฟหน้าอีกหนึ่งรุ่นที่ควรมีไว้ใช้งาน เนื่องจากอุปกรณ์ตัวนี้นั้นมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นการปรับระดับของไฟได้ถึง 3 ระดับ คือไฟสูง / ไฟต่ำ และไฟกระพริบ ให้ค่าความสว่างสูงสุดที่ 400 Lumen ให้ระยะแสงไกลสุด 200 เมตร ทำให้เลือกใช้งานได้หลากหลายรูปแบบตามความเหมาะสม วัสดุทำมาจากอะลูมิเนียมอัลลอย มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา พร้อมมาตรฐานการกันน้ำระดับ IPX4


2

WEST BIKING

ให้ความสว่างไกลถึง 300 เมตร ช่วยเพิ่มความปลอดภัยยามค่ำคืน

WEST BIKING เป็นไฟจักรยานแบบไฟหน้าที่จะมาช่วยเพิ่มความปลอดภัย และลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุสำหรับการขี่จักรยานในยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี อุปกรณ์รุ่นนี้ผลิตจากอะลูมิเนียมอัลลอย และพลาสติก ABS คุณภาพสูง ส่วนตัวหลอดเป็นแบบ LED L2 มีค่าความสว่างที่ 350 Lumen ให้ความสว่างได้ไกลสุดถึง 300 เมตร ปรับรูปแบบของไฟได้ถึง 5 รูปแบบ ส่วนการชาร์จไฟนั้นใช้แบบ USB


3

INBIKE Biking Lamp LX210

เป็นได้ทั้งไฟฉาย และไฟจักรยาน

สำหรับ INBIKE Biking Lamp LX210 เป็นไฟจักรยานแบบติดด้านหน้า ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ที่จะช่วยให้การขี่จักรยานไปยังสถานที่ต่างๆ ตอนกลางคืนทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย โดยไฟรุ่นนี้ใช้หลอดแบบ ULTRA-Bright LED ให้ค่าความสว่างสูงสุดได้ถึง 1,000 Lumen แสงสว่างได้ไกลถึง 230 เมตร มาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำระดับ IPX 6 ความพิเศษของอุปกรณ์รุ่นนี้คือสามารถถอดออกจากตัวยึดเพื่อนำมาเป็นไฟฉายได้


4

Gaciron 800 Lumen LED

มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ด้วยมุมมองที่กว้างมากกว่า

Gaciron 800 Lumen LED เป็นไฟจักรยานแบบติดด้านหน้า ที่จะช่วยให้ทัศนะวิสัยยามค่ำคืนนั้นกว้างมากกว่าไฟแบบอื่นๆ ช่วยให้การขี่จักรยานในเวลากลางคืนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้แสงกระจายได้กว้างมากถึง 85 องศา ให้ค่าความสว่างของแสง 800 Lumen ระยะแสงไกล 200 เมตร มาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำระดับ IPX 6

5

NEWBOLER Smart Induction Bicycle Light

กันน้ำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยมาตรฐาน IPX6

สำหรับ NEWBOLER Smart Induction Bicycle Light นั้นเป็นไฟจักรยานแบบติดตั้งด้านหน้า ที่มีหลอด LED ถึง 4 หลอด ปรับรูปแบบของแสงได้ถึง 3 ระดับ คือไฟสูง / ไฟต่ำ และไฟกระพริบ ทำให้มั่นใจได้ในความสว่าง และความปลอดภัยเมื่อใช้งาน ให้ค่าความสว่างมากถึง 1,600 Lumen ให้แสงสว่างไกลได้ถึง 500 เมตร ใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศเนื่องจากมีมาตรฐานการกันน้ำระดับ IPX6 และชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบ Fast Charge ผ่าน USB Type C

6

Machfally EOS100

ไฟจักรยานมาตรฐานเยอรมนี

Machfally EOS100 เป็นไฟจักรยานแบบติดตั้งด้านหน้าอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ เนื่องจากไฟรุ่นนี้เป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงด้วยการผลิตด้วยมาตรฐานของประเทศเยอรมนี วัสดุทำมาจาก Aluminium Magnesium Alloy ใช้หลอดไฟแบบ CREE LED ให้ค่าความสว่าง 180 Lumen ระยะแสงไกลสุดที่ 180 เมตร ใช้งานได้อย่างมั่นใจในความทนทานด้วยมาตรฐาน IPX4 เมื่อชาร์จไฟเต็มจะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง

7

RBO

ไฟจักรยานอัจฉริยะ ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างสนุก และปลอดภัย

สำหรับ RBO เป็นไฟจักรยานแบบติดด้านหน้าที่เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยหลอดไฟ LED แบบ 1xt6 2 หลอด มีค่าความสว่างที่ 500 Lumen ให้แสงสว่างเป็นมุมกว้าง 150 องศา กันน้ำได้ด้วยมาตรฐาน IPX4 นอกจากให้ความสว่าง และความปลอดภัยแล้ว อุปกรณ์รุ่นนี้ยังใช้งานเป็นอุปกรณ์แสดงผล และสถานการณ์ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น ระยะทาง / ระยะเวลา และความเร็ว ทำให้การขับขี่มีความสนุก และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

8

LEVTOP

ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ติดตั้งได้หลากหลายจุด

LEVTOP เป็นชุดไฟจักรยานที่มีมาให้ทั้งไฟหน้า และไฟท้าย ทำให้สามารถขับขี่ในยามกลางคืนได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไฟรุ่นนี้ผลิตมาจาก Aluminium Magnesium Alloy หลอดไฟเป็นแบบ LED zoomable ให้ความสว่างสูงสำหรับไฟหน้า และหลอด LED แบบปกติสำหรับไฟท้าย มาพร้อมเทคโนโลยีคอนเดนเซอร์ที่ผลิตความร้อนต่ำ ทำให้เมื่อใช้งานตัวอุปกรณ์จะไม่ร้อนจนเกินไป นอกจากนี้ตัวไฟหน้ายังสามารถถอดไปติดตั้งบนอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นหมวกกันน็อกได้อีกด้วย

9

Lee Bicycle 350LM CREE XPG HJ-7599

มาพร้อมแตรไฟฟ้าเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

สำหรับ Lee Bicycle 350LM CREE XPG HJ-7599 เป็นไฟจักรยานแบบติดตั้งด้านหน้า ซึ่งจุดเด่นของอุปกรณ์รุ่นนี้นอกจากค่าความสว่างที่มีมาให้ถึง 350 Lumen จากหลอดไฟ LED ที่สามารถปรับได้ถึง 4 รูปแบบแล้วนั้น ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่จักรยานด้วยแตรไฟฟ้าที่มีความดังถึง 140 dB อีกทั้งยังเมื่อชาร์จไฟเต็มจะใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่ที่มีความจุ 2,000 mAh

10

iFlashDeal

ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ ใช้งานได้อย่างครอบคลุม

iFlashDeal เป็นไฟจักรยานอีกหนึ่งรุ่นที่เรียกได้ว่าสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เนื่องจากอุปกรณ์รุ่นนี้นอกจากจะเป็นไฟหน้าที่ปรับรูปแบบของแสงได้ 3 ระดับ ให้ความว่างที่ 250 Lumen ยังใช้เป็นแตรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยด้วยความดังระดับ 120 dB  มีความทนทานด้วยมาตรฐาน IPX6 ใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ ใช้เวลาชาร์จไฟจนเต็มเพียง 2 ชั่วโมง ใช้งานได้ต่อเนื่อง 4 – 6 ชั่วโมง

วิธีการเลือกซื้อไฟจักรยาน

  • เลือกจากจุดที่ต้องการติดตั้ง สำหรับการเลือกไฟจักรยานเพื่อนำมาใช้งานนั้น สิ่งแรกที่ควรนำมาพิจารณาคือบริเวณที่ต้องการติดตั้ง เนื่องจากการติดตั้งไฟจักรยานนั้นสามารถติดตั้งได้หลากหลายจุดไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า หรือด้านท้ายของตัวจักรยาน ซึ่งการติดตั้งไฟจักรยานนั้นต้องติดตั้งในจุดที่มีความสะดวก ไม่กีดขวาง หรือทำให้เกิดความไม่สะดวกในการขับขี่ ซึ่งจุดติดตั้งที่แตกต่างกันก็จะทำให้รูปแบบของไฟจักรยานที่จะนำมาใช้มีความแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้การติดตั้งในจุดที่เหมาะสมจะช่วยให้ไฟจักรยานนั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย 
  • เลือกจากอุปกรณ์ในการติดตั้ง ไฟจักรยานนั้นจะติดตั้งกับส่วนต่างๆ ของจักรยานด้วยอุปกรณ์ติดตั้งที่มากับไฟจักรยานนั่นเอง ซึ่งตัวอุปกรณ์ติดตั้งก็มีหลากหลายรูปแบบ สำหรับการติดตั้งในจุดที่แตกต่างกันออกไปบนตัวจักรยานนั่นเอง ดังนั้นการเลือกซื้อไฟจักรยานต้องดูไปถึงอุปกรณ์ติดตั้งที่มีมาให้ด้วยว่าเหมาะสมกับการติดตั้งในจุดที่ต้องการหรือไม่ และนอกจากนั้นต้องดูด้วยว่าตัวของอุปกรณ์ติดตั้งนั้นมีความแข็งแรง และสามารถจับยึดตัวของไฟจักรยานได้อย่างมั่นคงหรือไม่ 
  • เลือกจากความทนทาน ในเรื่องความทนทานของไฟจักรยานนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า หรือไฟท้าย เพราะการขี่จักรยานเรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมกลางแจ้งที่อาจจะเผชิญหลากหลายสภาพอากาศโดยไม่ได้ตั้งตัว โดยเฉพาะเรื่องของฝนนั่นเอง ดังนั้นการเลือกซื้อไฟจักรยานควรเลือกรุ่นที่มีมาตรฐานการกันน้ำระดับ IPX4 ขึ้นไป เพื่อที่จะสามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อจำเป็นต้องขี่จักรยานในเวลาที่ฝนตก ตัวไฟจักรยานจะสามารถใช้งานได้โดยไม่เกิดความเสียหาย 
  • เลือกจากการปรับรูปแบบของแสง ไฟจักรยานที่เหมาะสมจะนำมาใช้งานนั้นควรเลือกแบบที่ปรับรูปแบบของแสงได้หลากหลาย เพื่อให้ครอบคลุมกับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า หรือไฟท้าย ซึ่งไฟหน้าควรปรับได้อย่างน้อย 3 รูปแบบคือ ไฟสูงเมื่ออยู่ในที่โล่ง ต้องการมองเห็นในระยะไกล ไฟต่ำเพื่อการมองเห็นในระยะใกล้ และไม่ต้องกังวลว่าแสงไฟจะไปรบกวนคนอื่น รวมไปถึงไฟกระพริบเพื่อกระตุ้นให้คนอื่นมองเห็นได้ง่ายขึ้น ส่วนไฟท้ายอย่างน้อยควรปรับได้ 2 รูปแบบคือเป็นแบบไฟกระพริบ และไฟส่องสว่าง เพื่อให้ผู้อื่นมองเห็นได้ง่าย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
  • เลือกจากฟังก์ชันเสริมอื่นๆ สำหรับฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆ ที่มีมาให้ในไฟจักรยานนั้นเป็นเรื่องควรนำมาประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากฟังก์ชั่นเสริมเหล่านั้นนอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่แล้ว บางฟังก์ชันยังช่วยให้การขับขี่มีความสนุก รวมไปถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ได้อีกด้วย ซึ่งฟังก์ชันเสริมที่ได้รับความนิยมส่วนมากจะเป็นไฟจักรยานที่เป็นแตรไฟฟ้าได้ด้วย ซึ่งฟังก์ชันนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี ส่วนอีกหนึ่งฟังก์ชันที่ได้รับความนิยมคือฟังก์ชันที่จะช่วยแสดงสถานณะ และสถิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว / ระยะทาง และระยะเวลาในการขับขี่เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อยของไฟจักรยาน

สำหรับไฟจักรยานที่มีการแสดงค่าความสว่างด้วยหน่วย Lumen นั้น ค่า Lumen คือค่าใช้วัดความสามารถของอุปกรณ์ส่องสว่าง ซึ่งส่วนมากจะใช้วัดค่าความสว่างที่ออกมาจริงของหลอดไฟ LED ประเภทต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้เป็นหลอดไฟของไฟจักรยานนั่นเอง ซึ่งถ้าต้องการความสว่างมากก็ควรเลือกไฟจักรยานที่หลอด LED นั้นมีค่า Lumen สูงๆ โดยอย่างน้อยต้องอยู่ในระดับ 200 Lumen ขึ้นไป

ไฟจักรยานบางรุ่นนั้นถูกออกแบบมาให้ถอดออกจากอุปกรณ์จับยึดได้ง่าย และรวดเร็ว ซึ่งประโยชน์ของการถอดได้ง่ายนั้นมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการนำตัวไฟจักรยานไปใช้ทำอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้เป็นไฟฉายแบบพกพา หรือใช้เป็นไฟส่องสว่างในบริเวณที่ต้องการ และรวมไปถึงป้องกันการสูญหายเมื่อต้องจอดจักรยานไว้ในพื้นที่เสี่ยง เพราะการถอดตัวไฟติดตัวไปด้วยจะมีความปลอดภัยมากกว่าปล่อยไฟทิ้งไว้กับตัวจักรยานนั่นเอง รวมไปถึงการถอดเพื่อนำมาชาร์จไฟได้ง่ายอีกด้วย

ไฟจักรยานทั้ง 2 รูปแบบนั้นมีความสะดวกทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับความสะดวก และเหมาะสมของผู้ใช้งานนั่นเอง ซึ่งไฟจักรยานแบบชาร์จไฟนั้นจะช่วยประหยัดเนื่องจากไม่ต้องเปลี่ยนถ่านบ่อยๆ ส่วนไฟจักรยานแบบเปลี่ยนถ่านนั้นจะได้เรื่องความสะดวกในการใช้งานต่อเนื่อง เนื่องจากไม่จำเป็นต้องรอเวลาชาร์จไฟ เมื่อถ่านหมดก็ถอดเปลี่ยนก้อนใหม่เพื่อใช้งานต่อได้ทันที

แหล่งอ้างอิง

http://www.sure.su.ac.th

https://green.wu.ac.th

https://www.hsri.or.th

Scroll to Top