โต๊ะที่มีไว้เพื่อกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร การใช้งานคอมพิวเตอร์ การอ่านหนังสือ หรือการทำงานอดิเรกต่างๆ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เรียกว่า “โต๊ะทำงาน” ซึ่งก็มีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายรูปทรง ทำมาจากหลากหลายวัสดุตามความเหมาะสม และความต้องการของผู้ที่นำไปใช้งาน ในยุคสมัยที่ต้อง Work From Home โต๊ะที่เหมาะสมสำหรับการนั่งทำงานจึงเป็นเรื่องที่ควรมีไว้ประจำบ้าน
ลองมาดูกันว่า10 สุดยอดโต๊ะทำงานที่ควรมีไว้ใช้สำหรับปี 2022 นั้นมีแบรนด์ไหนกันบ้าง
1
UNITBOMB L-shape working desk
โต๊ะทำงานสไตล์มินิมอลที่เหมาะสำหรับบ้านทุกรูปแบบ
สำหรับ UNITBOMB L-shape working desk เป็นโต๊ะทำงานเข้ามุมรูปตัวแอลที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้านทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันต่างๆ สำหรับการทำงานมาให้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับวางสิ่งของต่างๆ บนโต๊ะอย่างเช่นคอมพิวเตอร์ หรือเอกสารต่างๆ ส่วนตัวโต๊ะนั้นผลิตจากวัสดุคุณภาพดี โครงทำมาจากเหล็กที่มีความทนทาน Top ของโต๊ะเป็นไม้อัดคุณภาพสูง ทนน้ำ ทนความชื้น
2
Yifeng YF-1320
รับน้ำหนักได้สูง ทนทานทุกการใช้งาน
Yifeng YF-1320 เป็นโต๊ะทำงานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 120 x 60 x 74 เซนติเมตร ซึ่งจุดเด่นของโต๊ะรุ่นนี้นอกจากจะมีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นในการทำงานหลากหลายรูปแบบแล้วนั้นยังเป็นโต๊ะที่ได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแรง ตัวโครงของโต๊ะทำจากเหล็กกล่องคุณภาพสูง รับน้ำหนักได้ถึง 200 กิโลกรัม พร้อมยางรองขาโต๊ะเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนที่อาจจะเกิดกับพื้นห้อง ส่วน Top ของโต๊ะนั้นทำมาจากไม้อัดเคลือบเมลามีน
3
HAKONE
มาพร้อมชั้นวางของเพื่อความเป็นระเบียบของโต๊ะทำงาน
สำหรับโต๊ะทำงาน HAKONE นั้นถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ตัวโต๊ะมีขนาด 120 x 50 x 100 เซนติเมตร พร้อมชั้นวางของ 3 ชั้นช่วยให้สามารถเก็บสิ่งของต่างๆ ได้อย่างเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น โครงของโต๊ะทำงานเป็นเหล็กคุณภาพดีเสริมความแข็งแรงเพิ่มเติมด้วยการออกแบบโครงเหล็กแบบไขว้ สำหรับ Top ของโต๊ะเป็นไม้อัด MDF ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ ป้องกันรอยขีดข่วน ทนต่ออุณหภูมิร้อน – เย็น
4
LVNI HM008B
โต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัดแต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ
สำหรับ LVNI HM008B เป็นโต๊ะทำงานที่เหมาะสำหรับใช้วางคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีการออกแบบให้ช่องเก็บ CPU บริเวณด้านล่างของโต๊ะ ชั้นวาง Keyboard พร้อมชั้นวางของอเนกประสงค์ ตัวโต๊ะมีขนาด 70 x 48 x 72 เซนติเมตร วัสดุที่ใช้ทำโต๊ะคือไม้อัดประสานที่มีความทนทาน จุดเด่นของโต๊ะรุ่นนี้คือมีขนาดกะทัดรัด ราคาไม่สูง แต่มีการเก็บรายละเอียดต่างๆ อย่างใส่ใจ อย่างเช่นขอบโต๊ะได้ทำการลบเหลี่ยมให้มีความโค้งมน เป็นต้น
5
InnTech 9843
เคลื่อนย้ายได้สะดวก ให้ทุกสถานที่ในบ้านกลายเป็นห้องทำงาน
InnTech 9843 เป็นโต๊ะทำงานที่มีขนาดเล็กพร้อมล้อเลื่อน 4 ล้อ ทำให้เคลื่อนย้ายไปยังมุมต่างๆ ภายในบ้านได้สะดวก ช่วยให้สามารถเปลี่ยนทุกมุมของบ้านให้กลายเป็นห้องทำงานได้ในทันที ไม่ว่าจะเป็นข้างเตียงในห้องนอน บนโซฟาในห้องนั่งเล่น โดยโต๊ะรุ่นนี้มีการออกแบบให้ฐานของตะสอดเข้าไปใต้เตียง หรือใต้โซฟาได้ นอกจากจะใช้เป็นโต๊ะทำงานแล้วยังสามารถใช้เป็นโต๊ะวางของได้อีกด้วย
6
Ctrend GR-005
โครงสร้างเป็นเหล็กคุณภาพดี รับน้ำหนักได้สูง
สำหรับ Ctrend GR-005 เรียกได้ว่าเป็นโต๊ะทำงานอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจ จุดเด่นของโต๊ะรุ่นนี้นอกจากจะมีการออกแบบที่ลงตัวในสไตล์มินิมอล พร้อมฟังก์ชันต่างๆ ที่ทำให้การทำงานบนโต๊ะนี้ได้รับความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางของ และลิ้นชัก ส่วนโครงสร้างของโต๊ะได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ มีการเสริมคานที่โต๊ะ ทำให้สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 150 กิโลกรัม
7
Greenforst 2131
โต๊ะทำงานทรงคลาสสิกที่เน้นประโยชน์ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า
โต๊ะทำงาน Greenforst 2131 เป็นโต๊ะที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ทำงานกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากมีการออกแบบสำหรับรองรับ CPU และ Keyboard ได้อย่างลงตัวมีความเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอย มีชั้นวางของ 2 ชั้นทำให้สามารถจัดเก็บสิ่งต่างๆ ได้อย่างเป็นระเบียบช่วยให้ไม่เปลืองพื้นที่บนโต๊ะ โครงโต๊ะทำมาจากเหล็กคุณภาพสูง Top ของโต๊ะเป็นไม้อัดเคลือบเมลามีนทนความชื้นได้ดี
8
INDEX LIVING MALL รุ่นเบอร์ลิน่า
ดีไซน์เรียบหรู ให้ความรู้สึกมากกว่าเป็นโต๊ะทำงาน
สำหรับ INDEX LIVING MALL รุ่นเบอร์ลิน่า นั้นเป็นโต๊ะทำงานจาก INDEX แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ของไทย ทำให้สามารถมั่นใจในเรื่องคุณภาพได้มากพอสมควร โดยจุดเด่นของโต๊ะรุ่นนี้คือการออกแบบที่โดดเด่น สวยงาม ให้ความรู้สึกมากกว่าการเป็นโต๊ะทำงานเพียงอย่างเดียว แต่สามารถเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้านได้อีกด้วย แต่ยังคงคุณสมบัติครบถ้วนของโต๊ะทำงานไม่ว่าจะเป็นชั้นวางของด้านข้าง พื้นผิวโต๊ะทำมาจากไม้อัดเคลือบเมลามีน
9
Loft Style Creative Desk
จัดเก็บสิ่งของได้เป็นระเบียบ ลงตัวทุกการใช้งาน
Loft Style Creative Desk เป็นโต๊ะทำงานสไตล์ Loft ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสวยงาม ความคุ้มค่าในการใช้งาน หรือความแข็งแรงของตัวโต๊ะ โดยโต๊ะรุ่นนี้มีช่องเก็บของ 2 ช่อง 1 ลิ้นชักกลาง โครงสร้างทำจากเหล็กคุณภาพสูงเสริมความแข็งแรงด้วยโครงสร้างรูปตัว X พื้นผิวทำมาจากไม้อัด MDF เคลือบเมลามีนจึงสามารถมั่นใจได้ในเรื่องของความทนทาน
10
IKEA FJÄLLBO
โต๊ะทำงานที่เรียบง่ายสไตล์ IKEA
สำหรับ IKEA FJÄLLBO นั้นเรียกได้ว่าเป็นโต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัดที่ออกแบบมาในสไตล์ของ IKEA อย่างชัดเจน คือมีความเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอย ตัวโต๊ะมีขนาด 100 x 36 เซนติเมตร โครงสร้างของโต๊ะทำงานรุ่นนี้เป็นเหล็กคุณภาพสูง แต่สิ่งที่แตกต่างจากโต๊ะทำงานแบรนด์อื่นๆ คือ Top ของโต๊ะนั้นทำมาจากไม้จริง ให้อารมณ์ธรรมชาติ แต่มั่นใจได้ในเรื่องความแข็งแรง
วิธีการเลือกซื้อโต๊ะทำงาน
- เลือกจากขนาดของพื้นที่ การเลือกโต๊ะทำงานนั้นสิ่งแรกที่ควรมองคือขนาดของพื้นที่ซึ่งต้องนำโต๊ะทำงานมาวาง รวมไปถึงพื้นใช้สอยโดยรวมของห้องนั้นๆ ด้วย เพราะการนำโต๊ะทำงานมาวางต้องเลือกขนาดให้สอดคล้องกับขนาดของพื้นที่นั่นเอง เพราะโต๊ะทำงานถ้าใหญ่เกินไปก็อาจจะทำให้เกิดการกีดขวาง หรือทำให้พื้นที่ใช้สอบด้านอื่นๆ ลดลง ดังนั้นการเลือกโต๊ะทำงานควรเลือกขนาดของโต๊ะทำงานให้เหมาะสมกับพื้นที่โดยรอบนั่นเอง
- เลือกจากประเภทของโต๊ะทำงาน โต๊ะทำงานนั้นมีหลากหลายประเภทซึ่งคนทั่วไปอาจจะคุ้นเคยกับโต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ในออฟฟิศต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานเอกสาร หรือใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นหลักนั่นเอง แต่ในความเป็นจริงแล้วโต๊ะทำงานนั้นมีอีกหลากหลายรูปแบบ การเลือกโต๊ะทำงานจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทของงานที่ต้องทำบนโต๊ะตัวนั้นนั่นเอง
- เลือกจากรูปทรง สำหรับรูปทรงของโต๊ะทำงานนั้นมีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปทรง แต่รูปทรงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และรูปทรงตัวแอลเข้ามุม โดยทั้งสองรูปทรงนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้สอยพื้นที่ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดอยู่แล้ว ดังนั้นการเลือกโต๊ะทำงานรูปทรงต่างๆ ให้มองถึงลักษณะการทำงานของตัวเอง การจัดวางของ จะให้ควรลองนั่งดูก่อนว่าขยับตัวได้สะดวกในระหว่างการทำงานหรือไม่ ดังนั้นการเลือกโต๊ะทำงานจากรูปทรงนอกจากจะพิจารณาในเรื่องพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน ต้องพิจารณาในเรื่องความสะดวกของการนั่งทำงานด้วย จึงจะได้รูปทรงของโต๊ะทำงานที่ลงตัวมากที่สุด
- ควรมีลิ้นชัก และชั้นวางของ สำหรับโต๊ะทำงานที่ต้องนั่งทำงานเป็นประจำนั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือลิ้นชัก หรือชั้นวางของ เพราะเมื่อมีการนั่งทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานย่อมต้องมีอุปกรณ์ และสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการทำงานเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการมีชั้นวางของ หรือลิ้นชักในโต๊ะทำงานจะช่วยให้สามารถเก็บของเหล่านั้นได้อย่างเป็นระเบียบ ไม่รก ถ้าเป็นโต๊ะทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์แล้วนั้นบริเวณด้านล่างควรจะมีช่องใส่ CPU โดยเฉพาะรวมถึงช่องสำหรับร้อยสายไฟต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบ และความปลอดภัย
- โต๊ะทำงานต้องรับน้ำหนักได้ดี หลายคนคิดว่าทำงานนั้นไม่จำเป็นต้องแข็งแรงมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นโต๊ะทำงานต้องมีความแข็งแรงพอสมควร เนื่องจากสุดท้ายแล้วนั้นโต๊ะทำงานจะกลายเป็นโต๊ะที่ต้องวางสิ่งของต่างๆ มากมาย ซึ่งทำให้ต้องรับน้ำหนักเป็นจำนวนมาก ดังนั้นโต๊ะทำงานที่เหมาะสมควรจะรับน้ำหนักได้มากกว่า 150 กิโลกรัม ซึ่งการเลือกโต๊ะทำงานที่สามารถรับน้ำหนักได้ดีนั้นควรดูที่โครงสร้างของโต๊ะว่าทำมาจากวัสดุอะไร โดยโต๊ะทำงานที่สามารถรับน้ำหนักได้มากที่สุดคือโต๊ะทำงานโครงสร้างทำมาจากเหล็กนั่นเอง
- โต๊ะทำงานต้องประกอบง่าย โต๊ะทำงานในปัจจุบันนั้นส่วนมากจะเป็นโต๊ะทำงานกึ่งสำเร็จรูป คือต้องนำมาประกอบเอง ซึ่งอาจจะมีบ้างที่ประกอบมาให้ แต่ส่วนมากต้องประกอบเอง ดังนั้นการเลือกโต๊ะทำงานควรเลือกโต๊ะทำงานที่สามารถประกอบด้วยตัวเองได้ง่าย ซึ่งการดูว่าโต๊ะทำงานแบบไหนประกอบได้ง่าย หรือประกอบได้ยากนั้นให้สังเกตจากส่วนประกอบต่างๆ ของโต๊ะว่ามีจำนวนมาก หรือน้อย ถ้ามีชิ้นส่วนเยอะแสดงว่าการประกอบก็จะมีรายละเอียดมากขึ้นนั่นเอง และสิ่งที่สำคัญก่อนที่จะตัดสินใจซื้อควรถามเรื่องรายละเอียดในการประกอบจากผู้ขายทุกครั้ง