ถ้าพูดถึงการถ่ายรูปนั้นยังคงเป็นกิจกรรมที่หลายๆ คนชื่นชอบเป็นอย่างมาก ส่วนรูปที่ถ่ายออกมานั้นหลายคนเลือกที่จะเก็บไว้ในรูปแบบของไฟล์ดิจิตอล แต่อีกหลายๆ คนชอบที่จะเลือกรูปที่ต้องการแล้วปริ้นออกมาเพื่อเก็บไว้ หรือใช้ตกแต่งห้อง โดยเทคโนโลยีในการปริ้นรูปก็ได้รับการพัฒนา ทำให้มีเครื่องปริ้นในรูปแบบต่างๆ มาให้เลือกใช้ สำหรับในบทความนี้มาดูกันว่าเครื่องปริ้นรูปรุ่นไหนบ้างที่ควรมีไว้ใช้งานสำหรับปี 2022
ลองมาดูกันว่า 10 อันดับเครื่องปริ้นรูป แต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ
1
Instax Mini Link Smartphone Printer
มั่นใจได้ในความคมชัดด้วยมาตรฐานจาก Fujifilm
สำหรับ Instax Mini Link Smartphone Printer เป็นเครื่องปริ้นรูปแบบพกพาที่สามารถมั่นใจได้คุณภาพจากแบรนด์ Fujifilm โดยอุปกรณ์ตัวนี้ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก รูปทรงทันสมัย ส่วนการใช้งานนั้นก็แสนง่ายเพียงแค่สั่งงานผ่าน App instax mini Link ด้วย Smartphone หรืออุปกรณ์อื่นๆ รองรับระบบปฏิบัติการทั้ง Android และ iOS ส่วนรูปที่ปริ้นออกมาจะมีความคมชัดด้วยความละเอียดในระดับ 318 dpi
2
PAPERANG P1
ใช้งานง่ายเพียงแค่ชาร์จแบตเตอรี่
PAPERANG P1 เป็นเครื่องปริ้นรูปอีกหนึ่งรุ่นที่ควรมีไว้ใช้งาน เนื่องจากเครื่องรุ่นนี้มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ราคาไม่แพง ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เพราะนอกจากจะใช้ปริ้นรูปได้แล้ว ยังสามารถปริ้นใบเสร็จ หรือปริ้นที่อยู่สำหรับแปะพัสดุเพื่อส่งสินค้าได้อีกด้วย โดยที่ไม่ต้องเติมหมึก การใช้งานก็ทำได้ง่าย เพียงแค่สั่งปริ้นผ่าน Application จากอุปกรณ์ต่างๆ โดยเครื่องปริ้นจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่านระบบ Bluetooth ตัวรูปนั้นมีคุณภาพสูงสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 10 ปีเลยทีเดียว
3
HP Sprocket Select Photo Printer
ใส่กระดาษได้มากถึง 10 แผ่น ไม่ต้องเติมกระดาษบ่อยๆ
สำหรับ HP Sprocket Select Photo Printer เป็นเครื่องปริ้นรูปคุณภาพสูงอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ควรพลาด สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป เพราะนอกจากจะมีน้ำหนักเบา ทำให้พกพาได้สะดวกแล้วนั้น เครื่องรุ่นนี้ยังสามารถบรรจุกระดาษพิมพ์ได้สูงสุดถึง 10 แผ่น ทำให้ไม่ต้องเติมกระดาษบ่อยๆ นั่นเอง ส่วนการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ นั้นใช้ระบบ Bluetooth 5.0 รวมไปถึงการพิมพ์ภาพถ่ายโดยไม่ใช้หมึกด้วยเทคโนโลยี Zink
4
Huawei Photo Printer
น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
Huawei Photo Printer เป็นเครื่องปริ้นรูปจากแบรนด์ Huawei ทำให้สามารถคาดหวังได้ถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีได้อย่างแน่นอน ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก โดยเครื่องรุ่นนี้เป็นเทคโนโลยี Zero Ink by Zink ที่ทำงานได้โดยไม่ต้องใช้หมึกพิมพ์ ส่วนการเชื่อมต่อนั้นใช้ระบบ Bluetooth 5.0 และสั่งงานผ่าน Application Huawei Printer หรือ Huawei Share ซึ่งทำให้การใช้งานเครื่องรุ่นนี้สะดวก รวดเร็ว มีความคมชัดสูงสุดที่ 314×490 dpi
5
Canon Mini Photo Printer INSPiC [P] PV-123
ให้ภาพสวยพิมพ์เสร็จในเวลาไม่ถึง 1 นาที
สำหรับ Canon Mini Photo Printer INSPiC [P] PV-123 อีกหนึ่งรุ่นที่ควรมีไว้ใช้งานจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Canon เนื่องจากเครื่องรุ่นนี้มีจุดเด่นที่ความเร็วในการพิมพ์ที่ใช้เวลาเพียง 50 วินาทีเท่านั้นสำหรับการพิมพ์ภาพถ่าย 1 ภาพ ส่วนประสิทธิภาพในการพิมพ์นั้นใช้เทคโนโลยี ZINK ™ ซึ่งเป็นการพิมพ์ภาพด้วยความร้อน ไม่จำเป็นต้องใช้หมึกพิมพ์ การทำงานรองรับระบบปฏิบัติการทั้ง 2 ระบบคือ Android และ iOS ด้วย Application Canon Mini Print
6
Xiaomi Wireless Photo Printer
พิมพ์ภาพถ่ายได้ใหญ่ที่สุดถึง 6 นิ้ว
Xiaomi Wireless Photo Printer เป็นเครื่องปริ้นรูปแบบไร้สายที่ใช้ตลับหมึก ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก เครื่องรุ่นนี้สามารถพิมพ์ภาพถ่ายได้ถึงขนาด 6 นิ้ว ที่ความละเอียด 300×300 dpi ให้สีคมชัดสมจริงด้วยการพิมพ์ระบบ CMY พร้อมระบบเคลือบภาพอัตโนมัติเมื่อพิมพ์เสร็จ ใช้การเชื่อมต่อผ่านระบบ Wifi และ Bluetooth 4.0 สามารถสั่งพิมพ์ผ่านหลากหลาย Application ไม่ว่าจะเป็น Mi Home, WeChat applet และ Airprint รวมไปถึงสั่งงานผ่านคอมพิวเตอร์ได้ด้วย
7
Kodak Mini 2 Retro
ให้ภาพคมชัดสมจริงด้วยเทคโนโลยี Kodak 4Pass
คงไม่มีมีใครสงสัยในเรื่องคุณภาพของแบรนด์ Kodak ซึ่ง Kodak Mini 2 Retro เป็นเครื่องปริ้นรูปแบบพกพาที่ได้รับความนิยมมากของแบรนด์นี้ เครื่องรุ่นนี้ถูกสร้างมาเพื่อการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการพกพาไปยังสถานที่ต่าง ได้สะดวก หรือความสามารถในการพิมพ์ที่ยอดเยี่ยมด้วยเทคโนโลยี Kodak 4Pass ซึ่จะให้ภาพที่มีความละเอียด และสีสันคมชัด รองรับระบบปฏิบัติการทั้ง Android และ iOS
8
Canon SELPHY CP1300 / FOTOFILE
ใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้พร้อมกันถึง 8 เครื่อง
สำหรับ Canon SELPHY CP1300 / FOTOFILE เป็นเครื่องปริ้นรูประดับมืออาชีพที่จะช่วยให้การพิมพ์ภาพถ่ายคุณภาพสูงกลายเป็นเรื่องง่าย เครื่องรุ่นนี้เป็นเครื่องพิมพ์แบบใช้ตลับหมึกที่มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก เชื่อมต่อไร้สายผ่านระบบ Wi-Fi และ Bluetooth จุดเด่นที่น่าสนใจคือสามารถพิมพ์ภาพได้ขนาดใหญ่ถึง 2 x 6 นิ้ว และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart Devices เพื่อดึงรูปมาพิมพ์ได้พร้อมกันถึง 8 เครื่อง ควบคุมการใช้งานได้สะดวกผ่านหน้าจอ LCD ขนาด 6 x 8 นิ้ว
9
Paperang P2S Smart Laber Printer
ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ขนาด 1,000 mAh
Paperang P2S Smart Laber Printer เป็นเครื่องปริ้นรูปอีกหนึ่งรุ่นที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยรูปทรง และสีสันที่ไม่เหมือนใคร โดยเครื่องรุ่นนี้สามารถพิมพ์ได้ด้วยความละเอียดสูงสุดมากถึง 300 dpi เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วยระบบ Bluetooth 4.0 สั่งพิมพ์ภาพผ่าน Application รองรับระบบปฏิบัติการทั้ง Android และ iOS มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 1,000 mAh ใช้งานได้นาน ไม่ต้องกังวลถ้าต้องใช้งานอย่างต่อเนื่อง
10
Xiaomi Portable Photo Printer
พิมพ์ภาพได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องใช้ตลับหมึก
สำหรับ Xiaomi Portable Photo Printer เป็นเครื่องปริ้นรูปที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สะดวกในการใช้งานทุกสถานที่ ทุกเวลา ระบบการพิมพ์แบบ ZERO INK print technology ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ตลับหมึก ให้ภาพมีความสมจริงด้วยเทคโนโลยี Augment Reality และยังสามารถพิมพ์รูปถ่ายได้อย่างรวดเร็วเพียง 45 วินาทีเท่านั้น เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างผ่านระบบ Bluetooth 5.0 ที่เชื่อมต่อได้พร้อมกันมากที่สุดถึง 3 อุปกรณ์พร้อมกัน
วิธีการเลือกซื้อเครื่องปริ้นรูป
- เลือกจากรูปแบบการใช้งาน สำหรับการเลือกซื้อเครื่องปริ้นรูปเพื่อมาใช้งานนั้นสิ่งแรกที่ควรนำมาพิจารณานั่นคือรูปแบบการใช้งานนั่นเอง เพราะว่าการเลือกเครื่องปริ้นรูปให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งานจะทำให้การปริ้นรูปออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่นเป็นคนที่เดินทางบ่อย และชอบปริ้นรูปเก็บไว้ทันที ไม่ได้ปริ้นรูปเป็นประจำ หรือไม่ได้ปริ้นรูปแบบจำนวนมาก เครื่องปริ้นรูปที่ควรหามาใช้งานคือเครื่องปริ้นรูปแบบพกพา เนื่องจากมีขนาดเล็ก พกพาได้สะดวก ใช้งานง่าย ส่วนถ้าต้องปริ้นรูปเป็นประจำ ต้องการภาพที่มีความละเอียดสูง ก็ควรเลือกเครื่องปริ้นรูปที่มีขนาดใหญ่ หรือเครื่องปริ้นแบบปกติ เนื่องจากจะให้ความละเอียดภาพที่สูงกว่า มีรูปแบบการพิมพ์ที่หลากหลาย และรองรับการใช้งานหนักได้มากกว่านั่นเอง
- เลือกจากการเชื่อมต่อ เครื่องปริ้นรูปนั้นในปัจจุบันส่วนมากจะใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi หรือ Bluetooth และสั่งงานพิมพ์ผ่าน Application ต่างๆ บน Smart Devices โดยรูปแบบที่นิยมมากที่สุดคือเครื่องปริ้นรูปแบบพกพาที่เชื่อมต่อกับ Smart Phone แล้วสั่งให้ปริ้นรูปได้ทันที ดังนั้นการเลือกเครื่องปริ้นรูปมาใช้งานควรเลือกรุ่นที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ตรงกับรูปแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดนั่นเอง
- เลือกจากระยะเวลาในการใช้งาน ถ้าเครื่องปริ้นรูปแบบพกพาต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ ระหว่างการใช้งานคงเป็นเรื่องที่น่ารำคาญเป็นอย่างมาก ดังนั้นการเลือกเครื่องปริ้นรูปมานำมาใช้งานนั้นควรดูที่ความจุของแบตเตอรี่ด้วย ความจุที่เหมาะสมควรมากกว่า 500 mAp เพื่อที่เวลาต้องใช้งานจะสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง แบตเตอรี่ไม่หมดในระหว่างการทำงานนั่นเอง และเมื่อใช้งานเสร็จควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มไว้ทุกครั้ง
- เลือกจากคุณภาพของภาพถ่าย เครื่องปริ้นรูปแต่ละรุ่นนั้นจะให้คุณภาพของภาพที่ปริ้นออกมาได้แตกต่างกัน การเลือกเครื่องปริ้นรูปที่มีเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยให้ภาพที่ปริ้นออกมามีความคมชัด สมจริง และมีความละเอียดของภาพที่สูงจะช่วยให้ภาพที่ปริ้นออกมานั้นมีความสมบูรณ์ใกล้เคียงกับไฟล์ต้นฉบับมากที่สุด ดังนั้นการเลือกเครื่องปริ้นรูปมาใช้งานควรศึกษาในเรื่องคุณภาพ และความละเอียดของภาพที่จะได้จากเครื่องปริ้นรูปแต่ละรุ่นด้วย
- เลือกจากขนาดของภาพ สำหรับเครื่องเครื่องปริ้นรูปแบบพกพานั้นภาพที่ได้จะมีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ 2 x 6 นิ้ว ถ้าต้องการภาพที่มีขนาดใหญ่มากกว่านั้นจำเป็นต้องเลือกใช้เครื่องปริ้นที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น ดังนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องปริ้นรูปควรดูว่าขนาดภาพที่เราต้องการนั้นเครื่องปริ้นรูปแบบไหนสามารถตอบสนองความต้องการได้มากที่สุดนั่นเอง
- เลือกจากการรับประกัน และบริการหลังการขาย เครื่องปริ้นรูปนั้นคือ printer รูปแบบหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการปริ้นรูปโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีระบบการทำงานที่แตกต่างจากระบบการทำงานของเครื่องปริ้นแบบทั่วไปอยู่บ้าง การซ่อมบำรุงจึงจำเป็นต้องใช้ช่าง และอะไหล่เฉพาะ ดังนั้นการเลือกเครื่องปริ้นรูปที่มีการรับประกัน และบริการหลังการขายที่ดี จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าถ้าเครื่องปริ้นรูปจะได้รับการดูแลที่ดีนั่นเอง