การทำความสะอาดรถนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะทำความสะอาดด้วยตัวเอง หรือใช้บริการร้านล้างรถ สำหรับเจ้าของรถที่ชอบทำความสะอาดรถด้วยตัวเอง การเห็นรถสะอาดเอี่ยมทั้งภายนอก และภายในด้วยตัวเองเรียกได้ว่ามีเป็นความสุขทางใจอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งตัวช่วยให้ทำความสะอาดภายในรถได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นได้แก่ “เครื่องดูดฝุ่นในรถ”
ลองมาดูกันว่าเครื่องดูดฝุ่นในรถรุ่นไหนที่ควรมีไว้ใช้งานสำหรับปี 2022
1
Hoover Hand Vac
เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กที่ทรงพลัง
สำหรับ Hoover Hand Vac นั้นเรียกได้ว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถที่น่าสนใจรุ่นหนึ่ง โดยเครื่องรุ่นนี้มีขนาดเล็ก ทำงานด้วยระบบแบตเตอรี่ ONEPWR ประสิทธิภาพสูง ให้กำลังดูด 40W ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความยาวของสาย หรือการเชื่อมต่อกับแหล่งพลังงาน ดูดฝุ่นได้อย่างทรงพลังด้วย Cyclonic Technology ถังเก็บฝุ่นที่ตัวเครื่องมีขนาด 0.4 ลิตร พร้อมไฟ LED สำหรับเพิ่มความสว่าง ทำให้การดูดฝุ่นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2
Xiaomi Coclean Cleanfly
ปรับการดูดฝุ่นได้ 2 รูปแบบ พร้อมแรงดูด 5000 pa
Xiaomi Coclean Cleanfly เป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์จากแบรนด์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีอย่าง Xiaomi โดยเครื่องรุ่นนี้มีขนาดเล็ก พกพาง่าย แต่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพด้วยแรงดูดสูงถึง 5,000 pa ปรับระยะการดูดฝุ่นได้ถึง 2 ระยะ และมีกรอง 2 ชั้นด้วย Prefilter และแผ่นกรอง HEPA 11 ทำงานด้วยพลังงานแบตเตอรี่จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสายไฟ หรือแหล่งจ่ายพลังงาน สามารถสลับรูปแบบของหัวดูดเพื่อการใช้งานที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ได้อีกด้วย
3
Autobot VX
ใช้งานอย่างง่ายดายด้วย “One Click”
สำหรับ Autobot VX นั้นเรียกได้ว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถแบบไร้สายที่สามารถใช้งานได้ง่าย เริ่มต้นการทำงานด้วยระบบ “One Click” เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยแรงดูดที่สามารถปรับได้ 2 ระดับ คือระดับธรรมดาจะมีแรงดูดอยู่ที่ 7 kPa และระดับแรงสูงจะมีแรงดูดอยู่ที่ 13 kPa ทำให้สามารถดูดฝุ่นได้อย่างหมดจด รูปทรงภายนอกถูกออกแบบได้อย่างลงตัว ใช้งานง่าย จับถนัดมือ
4
SHANBEN Wireless AKS-8001C
ราคาประหยัดแต่ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม
SHANBEN Wireless AKS-8001C เป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถแบบไร้สาย โดยเครื่องรุ่นนี้มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก แต่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้แรงดูดที่สม่ำเสมอด้วยระบบไซโคลน พร้อมแรงดูดแบบ 360 องศา เรียกได้ว่าสามารถจัดการกับเศษฝุ่นที่มีอยู่ได้อย่างดีเยี่ยม แบตเตอรี่มีความจุ 2,000 mAh ที่มีกำลังไฟเพียงสำหรับการทำความสะอาดรถหนึ่งคันอย่างแน่นอน ถังเก็บฝุ่นภายในตัวเครื่องมีความจุ 0.4 ลิตร และที่สำคัญคือทำให้เกิดเสียงรบกวนน้อยมากในขณะที่เครื่องทำงาน
5
BLACK+DECKER PD1200AV
มั่นใจได้คุณภาพจากแบรนด์ระดับโลก
สำหรับชื่อของแบรนด์ BLACK+DECKER นั้นคงคุ้นหูกันดี เนื่องจากเป็นแบรนด์ของเครื่องมือประเภทต่างๆ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้สามารถมั่นใจได้ในคุณภาพของ BLACK+DECKER PD1200AV เครื่องดูดฝุ่นในรถรุ่นยอดนิยมของแบรนด์นี้ โดยเครื่องรุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการถือทั้งเครื่อง หรือถือเพียงท่ออ่อนก็สามารถดูดฝุ่นในรถได้ ข้อดีของเครื่องรุ่นนี้อีกหนึ่งอย่างคือใช้แหล่งจ่ายไฟจากช่องจุดบุหรี่ในรถ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่นั่นเอง
6
SHIMONO SVC-1020C
ดูดได้เร็ว ดูดได้แรง ดูดได้ทน
SHIMONO SVC-1020C เป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถแบบใช้ไฟจากช่องจุดบุหรี่ภายในรถ ซึ่งเครื่องรุ่นนี้จะช่วยให้การดูดฝุ่นภายในรถยนต์นั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายดายมากกว่าเดิมด้วยมอเตอร์ดูดคุณภาพสูงขนาด 150W พร้อม Cyclone Technology ให้แรงดูดสูงถึง 4,000 PA และยังเสริมประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นได้อย่างดีเยี่ยมด้วยอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นท่องอที่ยืดหดได้ / หัวดูดแบบปลายแหลมสำหรับการใช้งานในซอกมุม ส่วนกล่องเก็บฝุ่นภายในตัวเครื่องมีขนาด 0.5 ลิตร
7
Baseus Small Car Vacuum Cleaner
รูปทรงทันสมัย ขนาดเล็ก ใช้งานได้สะดวก
สำหรับ Baseus Small Car Vacuum Cleaner เป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถแบบไร้สาย ที่ได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงทันสมัย มีขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวก เรียกได้ว่าสามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียวอย่างไม่เหนื่อยแรง โดยมอเตอร์ดูดให้กำลังไฟฟ้าอยู่ที่ 70 W ให้แรงดูดสูงถึง 5,000 pa เมื่อใช้งานจะมีเสียงรบกวนดังมากที่สุดเพียง 75 dB เท่านั้น เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มที่จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 20 นาที
8
Electrolux Rapido ZB6106WD
เต็มประสิทธิภาพของเครื่องดูดฝุ่นในรถ
Electrolux Rapido ZB6106WD นั้นเรียกได้ว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถแบบไร้สายที่ได้รับความนิยมมากจากผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกอย่าง Electrolux โดยเครื่องรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ทำความสะอาดได้อย่างทรงพลังไม่ว่าจะเป็นการดูดแบบแห้ง หรือการดูดแบบเปียก ทำให้สามารถจัดการกับเศษฝุ่นทุกประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงเศษขยะ และเศษอาหารอีกด้วย ถังเก็บฝุ่นภายในตัวเครื่องมีขนาด 0.5 ลิตร พร้อมสัญญาณบอกปริมาณฝุ่น
9
Xiaomi 70Mai Vacuum Cleaner Swift
ช่วยทำความสะอาดได้ถึงระดับไรฝุ่น
Xiaomi 70Mai Vacuum Cleaner Swift เป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถอีกหนึ่งรุ่นที่ถือว่าโดดเด่นมากจากแบรนด์ Xiaomi โดยเครื่องรุ่นนี้นอกจากรูปทรงที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเหมาะสม ใช้งานง่าย พกพาสะดวก ทางด้านความสามารถในการดูดฝุ่นก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยแรงดูดระดับ 5,000 pa พร้อมเทคโนโลยีเฉพาะ ทำให้สามารถดูดได้ถึงขนาดไรฝุ่น นอกจากนี้ยังสามารถใช้พลังงานได้ถึง 2 รูปแบบคือพลังงานแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh และแหล่งจ่ายไฟภายในรถผ่าน Port USB
10
BOSCH GAS18V-1
เครื่องดูดฝุ่นในรถที่ใช้งานได้มากกว่าภายในรถ
สำหรับเทคโนโลยีด้านเครื่องมือประเภทต่างๆ ที่ทำงานด้วยแบตเตอรี่นั้นชื่อ BOSCH ย่อมอยู่ในระดับต้นๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของประสิทธิภาพ หรือความทนทาน ทำให้ BOSCH GAS18V-1 ที่เป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถแบบไร้สายนั้นสามารถมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่แรงสูงขนาด 18V สร้างแรงดูดได้สูงถึง 6,000 pa มาพร้อมอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่จะช่วยให้การทำงานเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าสามารถนำไปใช้งานในสถานที่อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแค่ใช้งานได้ในรถ
วิธีการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถ
- เลือกจากขนาดที่เหมาะสม สำหรับการเลือกเครื่องดูดฝุ่นในรถเพื่อนำมาใช้งานนั้น สิ่งแรกที่ควรนำมาพิจารณาคือเรื่องของขนาดนั่นเอง เพราะว่าเครื่องดูดฝุ่นในรถนั้นควรที่จะมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก สามารถใช้งานภายในรถได้โดยไม่ติดขัด ซึ่งการเลือกซื้อนั้นควรพิจารณาถึงขนาดที่เหมาะสมด้วย เพราะว่าบางคนนั้นจะเก็บไว้ในรถ บางคนจะเก็บไว้ในบ้าน และที่สำคัญต้องมีน้ำหนักเบา เพราะเมื่อนำมาใช้งานจะได้ไม่รู้สึกเมื่อยล้าจนเกินไป
- เลือกจากกำลังในการดูดฝุ่น เครื่องดูดฝุ่นในรถถ้าสามารถดูดฝุ่นได้ด้วยกำลังดูดที่สูงก็จะช่วยให้สามารถตัดการกับฝุ่น หรือเศษขยะประเภทต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งความสามารถในการดูดฝุ่นของเครื่องดูดฝุ่นในรถนั้นสามารถดูได้จากค่าพื้นฐานอย่างเช่น ขนาดของมอเตอร์ที่คิดค่าเป็น Watt ยิ่งมีค่า Watt สูงมากเท่าไหร่ก็แสดงว่ามอเตอร์ที่นำมาใช้มีพลังงานสูงนั่นเอง แต่ค่า Watt นั้นยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าเครื่องรุ่นนั้นมีแรงดูดจริงหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาถึงค่า pa หรือค่า “กิโลปาสคาล (Kilopascal : kPa)” ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นในรถที่มีประสิทธิภาพควรมีค่า pa ตั้งแต่ 4 kPa หรือ 4,000 pa ขึ้นไป ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นในรถยิ่งมีค่า pa สูงมากเท่าใดก็จะสามารถดูดฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
- เลือกจากแหล่งจ่ายพลังงาน เครื่องดูดฝุ่นในรถนั้นสามารถแบ่งประเภทตามแหล่งจ่ายพลังงานได้ 2 ประเภทคือประเภทที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ และประเภทที่ใช้พลังงานจากแหล่งจ่ายพลังงานภายในรถ หรือจากกระแสไฟฟ้า หรือเรียกให้เข้าใจง่ายได้ว่าแบบมีสาย และแบบไร้สายนั่นเอง ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นในรถทั้งสองประเภทนี้ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดยเครื่องดูดฝุ่นในรถแบบไร้สายนั้นจะสามารถใช้งานได้สะดวกมากกว่า เนื่องจากไม่ต้องกังวลในเรื่องความยาวของสายที่อาจจะทำให้การทำงานในบางจุดไม่สะดวก ส่วนเครื่องดูดฝุ่นในรถแบบที่มีสายก็จะมีจุดเด่นที่สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกลัวว่ากำลังไฟจะหมด เนื่องจากเสียบสายไฟเพื่อทำงานนั่นเอง ดังนั้นการเลือกเครื่องดูดฝุ่นในรถก็ควรพิจารณาถึงแหล่งจ่ายพลังงานที่เหมาะสมกับรูปแบบการทำงานของตัวเองด้วย
- เลือกจากขนาดของถังเก็บฝุ่น เครื่องดูดฝุ่นในรถนั้นมีสิ่งที่จำเป็นต้องพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออีกหนึ่งเรื่องคือขนาดของถังเก็บฝุ่นนั่นเอง ซึ่งฝุ่นที่ดูดออกไปได้จะเข้าไปอยู่ภายในถังเก็บฝุ่น ซึ่งถ้าถังเก็บฝุ่นมีขนาดที่เล็กไปก็จะทำให้ต้องหยุดทำงานเพื่อเทฝุ่นทิ้งบ่อยๆ และเมื่อฝุ่นเต็มโดยที่ไม่ได้เททิ้งก็จะลดประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นในรถอีกด้วย ดังนั้นการเลือกเครื่องดูดฝุ่นในรถเพื่อมาใช้งาน ต้องดูขนาดของถังเก็บฝุ่นให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานด้วย