เครื่องดูดควัน

10 สุดยอดเครื่องดูดควัน ยี่ห้อไหนดี ที่คุณต้องมีประจำปี 2022

ปัญหาที่หลายๆ คนเจอในระหว่างทำกับข้าวก็คือการที่มีควันเต็มครัวไปหมด ซึ่งบางครั้งแม้แต่การเปิดหน้าต่าง หรือเปิดประตูเพื่อระบายควันก็ไม่สามารถช่วยได้ ในปัจจุบันที่ลักษณะของห้องครัวส่วนมากจะเป็นครัวปิดทำให้การระบายควันทำได้ไม่สะดวก ดังนั้นสิ่งที่จะมาช่วยจัดการกับปัญหานี้คือการติดเครื่องดูดควันนั่นเอง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่สะดวกมากที่สุด

ลองมาดูกันว่าเครื่องดูดควันที่น่าสนใจในปี 2022 มีแบรนด์ไหนที่น่าสนใจ

1

Meilegao VBELL

คุณภาพที่อยู่เหนือราคา

สำหรับ Meilegao VBELL นั้นเป็นเครื่องดูดควันขนาดเล็กกะทัดรัด ราคาไม่แพง แต่คุณภาพนั้นเรียกได้ว่าอยู่เหนือราคา เนื่องจากเครื่องรุ่นนี้ใช้มอเตอร์แบบปิดทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ภายในมอเตอร์เป็นขดลวดความหนาแน่นสูง ระบายความร้อนได้เร็ว ประหยัดพลังงาน พร้อมใบพัดแบบพิเศษที่เรียกว่า “พัดลมชิบะ” ที่มีใบพัดระบายอากาศขนาดเล็กมากกว่า 60 ใบทำให้สามารถดูดควันได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังไม่ก่อให้เกิดเสียงรบกวนขณะทำงานด้วยลูกปืนมอเตอร์ NSK


2

Lucky Flame RG-911T

เครื่องดูดควันอัจฉริยะ ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

Lucky Flame RG-911T เป็นเครื่องดูดควันอัจฉริยะที่สามารถควบคุมการทำงานต่างๆ ได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เนื่องจากเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมแผงควบคุมระบบสัมผัสที่ตั้งค่าการทำงานให้เหมาะสมกับอาหารได้หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด ทอด หรืออุ่นอาหาร สามารถตั้งเวลาเปิด – ปิด มีไฟ LED ปรับองศาได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีถาดดักน้ำมันพร้อมช่องดูระดับน้ำมันที่ถอดมาทำความสะอาดได้ง่าย


3

Rinnai RH-T316-SSV

จัดการควันในห้องครัวได้อย่างรวดเร็ว

Rinnai RH-T316-SSV เป็นเครื่องดูดควันที่สามารถจัดการกับควัน และละอองสิ่งสกปรกที่เกิดจากการประกอบอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นไอน้ำ ควัน กลิ่น ได้อย่างรวดเร็วด้วยอัตราการดูดที่ความเร็ว 850 ลบ.ม./ชม. และยังสามารถปรับความเร็วได้ถึง 2 ระดับอีกด้วย สามารถควบคุมการทำงานด้วยปุ่มกดที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ตัวเครื่องมีความแข็งแรง ทนทาน ติดตั้งง่าย มีการออกแบบที่เรียบง่ายทำให้เข้ากันได้ดีกับทุกสภาพห้องครัว


4

DYNA HOME DH 0390

เครื่องดูดควันที่จะช่วยให้มั่นใจในทุกการทำอาหาร

สำหรับ DYNA HOME DH 0390 เป็นเครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนังที่โดดเด่นด้วยการออกแบบ ด้วยวัสดุโครงสร้างที่เป็นสเตนเลส และกระจกนิรภัยแบบโค้ง ซึ่งสามารถปรับระดับความแรงของการดูดลมออกได้ 3 ระดับ ความเร็วในการดูดลมออกรวมสูงสุดที่ 1,100 ลบ.ม./ชม. ระบายควันออกด้วยท่อระบายอากาศขนาด 6 นิ้ว สามารถทำความสะอาดได้ง่ายด้วยตะแกรงดักจับไอน้ำมันสเตนเลส

5

HAFELE 495.38.237

มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพด้วยการรับประกันจากแบรนด์ระดับโลก

HAFELE 495.38.237 เป็นเครื่องดูดควันแบบติดผนังจากแบรนด์ HAFELE ที่สามารถมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพสินค้า โดยเครื่องรุ่นนี้ใช้สเตนเลสสตีลเป็นหลัก ทำให้มีความแข็งแรง ทำความสะอาดง่าย มอเตอร์มีกำลังดูดสูงสุดที่ 1,200 ลบ.ม/ชม. โดยสามารถปรับความแรงในการดูดได้ถึง 3 ระดับ อุปกรณ์อื่นๆ ที่มีมาให้คือแผ่นกรองน้ำมันอะลูมิเนียม 3 ชิ้น และแผ่นกรองคาร์บอนสำหรับกรองกลิ่นที่ไม่ต้องการ

6

Electrolux EFT6510X

เครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศที่เหมาะสมกับครัวขนาดเล็ก

Electrolux EFT6510X เป็นเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศทำให้ไม่จำเป็นต้องเจาะผนังเพื่อต่อท่อระบายอากาศ จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้คือมีขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับห้องครัวขนาดเล็กในคอนโดมิเนียม ถึงแม้ว่าจะเล็กแต่กำลังในการดูดนั้นเพียงพอที่จะจัดการควันต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยกำลังดูดสูงสุดที่ 520 ลบ.ม/ชม. ใช้กำลังไฟ 240 W สามารถปรับความแรงได้ 3 ระดับ ภายในเครื่องมีระบบกรองไขมันมาให้ในตัว

7

MEX SL360W/X60

ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

MEX SL360W/X60 เป็นเครื่องดูดควันระบบอัตโนมัติขนาดเล็กที่เริ่มการทำงานได้เพียงแค่เลื่อนแผงกันควันออกมาเครื่องจะเริ่มทำงานทันที ส่วนความสามารถในการดูดควันนั้นมาจากใบพัดคู่ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ขนาด 115 W ปรับความแรงได้ 3 ระดับ ทำให้ดูดควันด้วยกำลังดูดรวมสูงสุดที่ 480 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง โดยเครื่องรุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้ท่ออากาศขนาด 125 ม.ม.ต่อออกนอกห้อง มีการรับประกัน 2 ปี

8

Gorenje WHT923E5X

ทนทานเหมาะสำหรับการใช้งานหนัก

สำหรับ Gorenje WHT923E5X เป็นเครื่องดูดควันที่ค่อนข้างโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความสวยงาม ด้วยวัสดุภายนอกที่เป็นสเตนเลสสตีล พร้อมหลอดไฟแบบ LED ปุ่มกดสำหรับควบคุมใช้งานง่าย หรือประสิทธิภาพในการทำงาน ดูดอากาศได้สูงสุด 1,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ปรับระดับความแรงของการดูดได้ 3 ระดับ มอเตอร์ทำงานสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ที่สำคัญไม่มีเสียงดัง เพราะเมื่อทำงานจะมีเสียงดังมากที่สุดเพียงแค่ 67 dB เท่านั้น

9

FRANKE CXW 220 FT 920 M

ใช้งานง่าย ดูดควันได้อย่างรวดเร็ว

FRANKE CXW 220 FT 920 M เป็นเครื่องด้วยควันแบบกระโจมติดผนังขนาด 90 เซนติเมตร สามารถควบคุมการทำงานได้ง่ายเพียงปลายนิ้วด้วยระบบสัมผัสพร้อมจอ LED สำหรับแสดงระยะเวลาในการทำงาน พร้อมหลอดไฟ LED 1.5 วัตต์ 2 ดวง ส่วนความสามารถในการดูดอากาศสูงสุดนั้นมากถึง 1,600 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ปรับความแรงได้ถึง 3 ระดับ การต่อท่อเพื่อระบายควันออกไปภายนอกนั้นใช้ท่อขนาด 7 นิ้ว

10

TEKA LDH 90

ดูแลรักษาง่าย ใช้งานได้ยาวนาน

สำหรับ TEKA LDH 90 เป็นเครื่องดูดควันที่มีการออกแบบอย่างสวยงาม ทันสมัย สามารถเข้ากับครัวได้หลากหลายรูปแบบ โครงสร้างของเครื่องทำมาจากสเตนเลสสตีลมีความทนทาน ทำความสะอาดได้ง่าย มีจอแสดงผลแบบดิจิตอล ส่วนการทำงานนั้นใช้ระบบใบพัดคู่ ปรับแรงดูดได้ 3 ระดับ สามารถดูดอากาศรวมได้สูงสุด 1,200 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ทำให้สามารถดูดควันได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมาะสำหรับการทำอาหารทุกประเภท นอกจากนี้ยังมีแผ่นกรองน้ำมันอะลูมิเนียมมาให้อีกด้วย 

เครื่องดูดควันเหมาะสำหรับใคร

สำหรับเครื่องดูดควันนั้นเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ครัวที่ค่อนข้างทันสมัย แต่ก็ได้รับความนิยมมากพอสมควรโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมซึ่งไม่สามารถระบายควันด้วยวิธีการอื่นๆ ได้สะดวก ซึ่งเครื่องดูดควันค่อนข้างจะเหมาะสมสำหรับครัวใหม่ที่มีการออกแบบรองรับการติดตั้งเครื่องดูดควันไว้แล้ว โดยประโยชน์ของเครื่องดูดควันนั้นคือการดูดควันที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำอาหาร เพื่อไม่ให้ควันเหล่านั้นก่อให้เกิดความสกปรก และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ตกค้างในห้องครัว 

ดังนั้นเครื่องดูดควันจึงเหมาะสมกับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารด้วยตัวเองที่บ้าน โดยเครื่องดูดควันจะช่วยให้การทำอาหารสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกังวลในเรื่องสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เกิดจากควันจะตกค้าง และทำความเสียหายให้กับห้องครัว

วิธีการเลือกซื้อเครื่องดูดควัน

  • เลือกประเภทให้ถูกต้อง เครื่องดูดควันนั้นสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภทตามลักษณะรูปทรง และรูปแบบการทำงาน ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องดูดควันต้องสำรวจสภาพ และพื้นที่ของห้องครัวว่าสามารถติดตั้งเครื่องดูดควันประเภทไหนได้สะดวก รวมไปถึงดูลักษณะการทำอาหารของตัวเองว่าเหมาะกับเครื่องดูดควันประเภทไหนมากที่สุด 
  • เลือกขนาดให้เหมาะสม ห้องครัว โดยเฉพาะพื้นที่ประกอบอาหาร หรือบริเวณเตาของแต่ละบ้านนั้นมีขนาดที่แตกต่างกัน เครื่องดูดควันจึงถูกออกแบบมาให้มีหลายขนาดเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่งเครื่องดูดควันมาตรฐานนั้นจะถูกออกแบบมาให้มีขนาดกว้าง 90 เซนติเมตร เพื่อรองรับการใช้งานกับเตาแก๊สขนาดมาตรฐานนั่นเอง แต่ถ้าห้องครัวมีพื้นที่ประกอบอาหาร ขนาดเล็ก หรือมีขนาดใหญ่มากกว่าปกติ ก็ควรเลือกขนาดเครื่องดูดควันให้เหมาะสมกับขนาดของห้องครัว  
  • เลือกกำลังในการดูดอากาศ เครื่องดูดควันแต่ละประเภท แต่ละรุ่นนั้นจะมีความสามารถในการดูดควันที่แตกต่างกัน  โดยจะวัดค่าเป็นลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ซึ่งเครื่องดูดควันขนาดมาตรฐานส่วนมากจะสามารถดูดอากาศรวมได้สูงสุดที่ประมาณ 800 – 1,200 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง หรืออาจจะคำนวณกำลังในการดูดอากาศได้ด้วยการนำขนาดห้องครัวคือ ความยาว x ความกว้าง x ความสูง x 10 ก็จะได้ตัวเลขคร่าวๆ ของกำลังดูดอากาศที่เหมาะสมกับห้องครัวนั่นเอง 
  • เวลาทำงานต้องเงียบ เมื่อเครื่องดูดควันทำงานนั้นจะมีเสียงของมอเตอร์ที่แสดงว่าเครื่องกำลังทำงานอยู่ ซึ่งเสียงของมอเตอร์นั้นก็จะมีความดังเบาที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ การเลือกเครื่องดูดควันที่เหมาะสมนั้นเวลาทำงานเสียงของมอเตอร์ต้องไม่ดังจนเกินไป 
  • โครงสร้างมีความแข็งแรง สำหรับการเลือกเครื่องดูดควันมาใช้งานในห้องครัวนั้นโครงสร้างของตัวเครื่องก็ต้องนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจด้วย เพราะว่านอกจากการออกแบบภายนอกให้มีความสวยงามแล้วนั้น ความแข็งแรง ทนทาน ทำความสะอาดได้ง่ายก็ต้องนำมาพิจารณาด้วย เนื่องจากเครื่องดูดควันนั้นจะต้องอยู่คู่กับห้องครัวไปเป็นระยะเวลานาน การที่ตัวเครื่องมีความแข็งแรงก็จะทำให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นนั่นเอง

คำถามที่พบบ่อยของเครื่องดูดควัน

ในปัจจุบันเครื่องดูดควันสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีรูปแบบการทำงาน และการติดตั้งที่แตกต่างกันไป

  • เครื่องดูดควันแบบ Chimney Hood เป็นเครื่องดูดควันประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันสำหรับบ้านพักอาศัย โดยมีลักษณะเป็นปล่อง หรือกระโจมด้านบนตัวเครื่อง และมีท่อต่อเพื่อระบายอากาศออกไปภายนอก ทำให้สามารถดูดควันได้ดี ไม่มีควันสะสมอยู่ภายในห้อง แต่เครื่องดูดควันประเภทนี้นั้นเหมาะสมกับห้องครัวที่ค่อนข้างมีพื้นที่ การติดตั้งต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เหมาะสำหรับการทำอาหารที่ใช้ไฟแรง 
  • เครื่องดูดควันแบบ Slimline Hood เป็นเครื่องดูดควันขนาดเล็ก ใช้ระบบหมุนเวียนอากาศภายในตัวเอง ทำให้เครื่องดูดควันประเภทนี้ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยภายในคอนโดมิเนียม หรือห้องครัวไม่สามารถต่อท่อระบายอากาศออกไปด้านนอกได้ โดยตัวเครื่องจะดูดอากาศเข้าไปผ่านแผ่นกรองอากาศประเภทต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ด้านใน แล้วจึงปล่อยอากาศที่สะอาดกลับคืนมาสู่ภายนอก 
  • เครื่องดูดควันแบบ Island Hood เป็นเครื่องดูดควันที่เหมาะสำหรับห้องครัวขนาดใหญ่ หรือร้านอาหาร เพราะว่าเป็นเครื่องดูโควันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในเครื่องดูดควันทั้ง 3 ประเภท โดยเครื่องประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องติดกับผนัง สามารถติดตั้งไว้บริเวณเพดานกลางห้องครัวได้เลย ด้วยประสิทธิภาพที่มากกว่าเครื่องดูดควันประเภทอื่นๆ ทำให้เครื่องประเภทนี้มีราคาสูงที่สุดด้วย

แผ่นกรองอากาศหรือฟิลเตอร์ในเครื่องดูดควันนั้นส่วนมากจะนิยมใช้อยู่ 3 ประเภทคือ ตัวกรองแบบตาข่ายที่มีลักษณะเป็นตาข่ายอะลูมิเนียมซ้อนกันหลายชั้น ตัวกรองดักน้ำมันจะเป็นตัวกรองที่ทำมาจากอะลูมิเนียม หรือสเตนเลสทำหน้าที่ดักไอน้ำมัน ทำให้น้ำมันที่มากับอากาศนั้นหยดลงไปในถ้วยที่เตรียมไว้ ตัวกรองถ่าน สำหรับตัวกรองประเภทนี้จะมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่น มีหน้าที่คือช่วยดูดกลิ่นต่างๆ จากการประกอบอาหารไม่ให้กลิ่นเหล่านั้นเหม็นติดครัว

แหล่งอ้างอิง

http://www.rdi.rmutsb.ac.th

https://techno.kpru.ac.th

Scroll to Top