เครื่องซักผ้า

10 สุดยอดเครื่องซักผ้า ยี่ห้อไหนดี ที่คุณต้องมีประจำปี 2022

สำหรับเครื่องซักผ้านั้นสามารถเรียกได้ว่าเป็นเครื่องใช้ที่มีอยู่แทบทุกบ้าน เพราะว่าอุปกรณ์ชนิดนี้ได้ช่วยให้การซักผ้านั้นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรวดเร็ว รวมไปถึงประหยัดแรงในการซักผ้าได้เป็นอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ สำหรับการซักผ้าเพื่อให้สามารถตอบสนองการใช้งานได้ทุกรูปแบบ และซักผ้าได้ทุกประเภท

ลองมาดูกันว่า 10 รุ่นเครื่องซักผ้าที่ควรมีไว้ใช้งานในปี 2022 นั้นมีแบรนด์ไหนบ้าง

1

Samsung WA12J5713SG/ST

ใช้งานหนักได้สบาย พร้อมรับประกัน 10 ปี

Samsung WA12J5713SG/ST เป็นเครื่องซักผ้าฝาบนจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Samsung โดยเครื่องรุ่นนี้มีความจุ 12 กิโลกรัม ฝาด้านบนถูกออกแบบให้พับเก็บได้ง่าย มอเตอร์เป็นระบบ digital inverter ที่มีความทนทาน เสียงรบกวนน้อย สามารถใช้งานหนักได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นเครื่องรุ่นนี้ยังมีเทคโนโลยี Wobble ที่ช่วยถนอมผ้าขณะซัก เทคโนโลยี Air Turbo Drying System ที่ช่วยให้ผ้าแห้งได้อย่างรวดเร็ว และระบบทำความสะอาดถังซักอัตโนมัติ Eco Drum Clean


2

Haier HWM-T75 OXS

มีขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่ายด้วยระบบ 2 ถัง

สำหรับ Haier HWM-T75 OXS เป็นเครื่องซักผ้าแบบ 2 ถังที่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กด้วยความจุของถังซัก 7.5 กิโลกรัม แต่ก็อัดแน่นไปด้วยระบบต่างๆ ที่จะช่วยให้การซักผ้าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยน้ำจากด้านบนที่จะช่วยให้การละลายผงซักฟอกทำได้ดีมากขึ้น รวมไปถึงระบบ Magic Filter ที่ช่วยกรองสิ่งสกปรกไม่ให้ไหลกลับมาปนกับเสื้อผ้าในขณะซัก


3

SHARP ES-FW1010W

รองรับความต้องการทุกรูปแบบด้วย 16 โปรแกรมอัตโนมัติ

SHARP ES-FW1010W เป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่มีความจุของถังซัก 10 กิโลกรัม โดยตัวถังซักทำมาจาก Stainless Steel หนา 0.6 มิลลิเมตร ทำให้มีความทนทาน ไม่ผุกร่อนง่าย ไม่เกิดสนิม ส่วนความสามารถในการซักผ้านั้นเรียกได้ว่าตอบสนองได้ทุกรูปแบบด้วย 16 โปรแกรมซักผ้าอัตโนมัติ รวมไปถึงยังมี Smart Sensor ที่จะทำให้การซักผ้าประเภทต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา


4

Electrolux EWF7525DGWA

ทำงานเงียบ ไร้เสียงรบกวน

สำหรับ Electrolux EWF7525DGWA เป็นเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาดความจุถังซัก 7.5 กิโลกรัม และเมื่อทำงานจะไม่ก่อให้เกิดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี Inverter ซึ่งนอกจากเสียงเงียบแล้วยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย ส่วนการซักผ้านั้นมีเทคโนโลยี Ultramix ที่ช่วยถนอมสีผ้า ซักผ้าได้สะอาดอย่างลึกล้ำ รวมไปถึงระบบ IQ Touch ที่สามารถตั้งรูปแบบการซักผ้าให้เหมาะสมกับผ้าประเภทต่างๆ ได้อย่างอัตโนมัติ มีหน้าจอ LCD สำหรับควบคุมการทำงาน และแสดงสถานะต่างๆ

5

Bosch WAN24261TH

ปั่นผ้าด้วยความเร็ว 1,200 รอบต่อนาที

Bosch WAN24261TH เป็นเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าที่มีความจุของถังซัก 8 กิโลกรัม มอเตอร์เป็นแบบ Eco Silence Drive ที่นอกจากจะทำงานได้เงียบมาก ยังสามารถทำความเร็วได้สูงถึง 1,200 รอบ / นาที เพื่อช่วยให้ซักผ้า และปั่นผ้าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนั้นยังมีระบบ AntiVibration ที่ช่วยลดการสั่นสะเทือนของเครื่อง รวมไปถึงระบบ ActiveWater ที่จะช่วยปรับเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า ปริมาณน้ำ ปริมาณผงซักฟอก ให้เหมาะสมกับปริมาณผ้าที่นำลงไปซัก

6

LG Washing Machine FM1208N6W

นุ่มนวล ถนอมผ้า ราวกับซักผ้าด้วยมือ

สำหรับ LG Washing Machine FM1208N6W เป็นเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าที่มีความจุของถังซัก 8 กิโลกรัม เครื่องรุ่นนี้มีเทคโนโลยี 6 Motion DD ที่ขับเคลื่อนถังซักไปได้ 6 ทิศทาง ไม่ทำให้ผ้าพันกัน ช่วยให้สามารถซักผ้าได้อย่างนุ่มนวล และถนอมผ้าเหมือนการซักด้วยมือ ส่วนมอเตอร์เป็นระบบ Inverter Direct Drive ที่ช่วยให้การทำงานไม่มีเสียงรบกวน และระบบ Smart Diagnosis ที่จะแจ้งเตือนมาที่โทรศัพท์มือถือทันทีเมื่อเครื่องมีปัญหา

7

Toshiba AW-A750ST

ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นด้วยเทคโนโลยี Circular Intake

Toshiba AW-A750ST เป็นเครื่องซักผ้าแบบฝาบนขนาดความจุถังซัก 6.5 กิโลกรัม ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด หรือครอบครัวขนาดเล็ก จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้คือระบบ Circular Intake ที่จะช่วยดึงอากาศจากรอบทิศทางเข้าสู่ตัวเครื่องในขณะที่ปั่นหมาด ซึ่งจะช่วยให้ผ้าแห้งได้รวดเร็วขึ้น มีระบบ Hydro Twin Power ที่เป็นการสร้างน้ำวนขึ้นในถังซักเพื่อจัดการกับคราบสกปรกที่ฝังลึก

8

Beko WCV7512BSO

เครื่องซักผ้ารุ่นเล็กที่ความสามารถเกินตัว

สำหรับ Beko WCV7512BSO เป็นเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาดเล็กอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ เครื่องรุ่นนี้มีความจุถังซักอยู่ที่ 7 กิโลกรัม มอเตอร์ใช้ระบบ Inverter เพื่อประหยัดพลังงาน และลดเสียงรบกวน สามารถจัดการกับผ้าได้ทุกประเภทด้วยโปรแกรมการซักผ้าแบบต่างๆ ถึง 15 โปรแกรม รวมไปถึงโปรแกรมถนอมเสื้อผ้าไม่ให้เกิดความเสียหายขณะซัก อีกทั้งยังซักผ้าขนสัตว์ได้อย่างง่ายดายด้วยระบบ Woolmark

9

Panasonic NA-F110A6DRC

ขจัดคราบฝังลึกด้วยระบบ Active Foam system

Panasonic NA-F110A6DRC เป็นเครื่องซักผ้าฝาบนที่มีความของถังซัก 11 กิโลกรัม ทำให้สามารถซักผ้าได้ครั้งละเป็นจำนวนมาก ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ยังมีระบบต่างๆ ที่จะช่วยให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ StainMaster สำหรับการแช่ผ้าเพื่อให้จัดการกับคราบฝังลึกได้ง่ายขึ้น ระบบ Active Foam system ที่จัดการกับคราบประเภทต่างๆ ด้วยการสร้างโฟมฟองละเอียด ระบบ Active Wave Pulsator ที่จะสร้างน้ำวนที่ทรงพลังจากใบพัด 8 ครีบเพื่อการซักผ้าได้สะอาดมากยิ่งขึ้น

10

Haier HWM-T140 OX

เครื่องซักผ้า 2 ถังขนาดใหญ่ที่จัดการกับผ้าได้ทุกประเภท

สำหรับ Haier HWM-T140 OX เป็นเครื่องซักผ้าแบบสองถังที่มีความจุของถังซักมากถึง 14 กิโลกรัม และถังปั่นหมาด 7.5 กิโลกรัม ทำให้สามารถจัดการกับเสื้อผ้าจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ใช้งานได้ง่ายด้วยปุ่มบิดควบคุมการทำงานที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน มีความทนทาน เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องซักผ้าเป็นจำนวนมากในแต่ละครั้ง

วิธีการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า

  • เลือกจากประเภทของเครื่องซักผ้า เครื่องซักผ้าที่นิยมใช้งานสำหรับการซักผ้าทั่วไปในบ้านนั้นมีอยู่ 3 ประเภทคือเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า เครื่องซักผ้าแบบฝาบน และเครื่องซักผ้าแบบ 2 ถัง ซึ่งแต่ละประเภทนั้นก็มีจุดเด่น – จุดด้อยที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าควรพิจารณาว่าเครื่องซักผ้าประเภทไหนเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด เพื่อที่จะได้เลือกมาใช้งานได้ตรงกับความต้องการนั่นเอง 
  • เลือกจากขนาดของพื้นที่ การนำเครื่องซักผ้ามาใช้งานนั้นต้องคำนึงถึงขนาดของพื้นที่ซึ่งจะนำเครื่องซักผ้ามาติดตั้งด้วย เพราะการติดตั้งเครื่องซักผ้านั้นจำเป็นต้องมีพื้นที่พอสมควรสำหรับการทำงาน รวมไปถึงต้องมีการต่อระบบน้ำเข้า และระบบน้ำทิ้ง ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวซึ่งมีพื้นที่กว้างก็จะไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเป็นคอนโดมิเนียม หรือบ้านขนาดเล็ก การเลือกซื้อเครื่องซักผ้ามาใช้งานต้องคำนึงถึงขนาดของพื้นที่ด้วย 
  • เลือกจากขนาดความจุถังซัก สำหรับการซักผ้านั้นแต่ละครอบครัวก็มีวิธีการ รวมไปถึงปริมาณผ้าที่จะต้องซักในแต่ละครั้งแตกต่างกัน ถ้าเป็นครอบครัวขนาด 3 – 4 คนก็จะมีปริมาณผ้าค่อนข้างมาสำหรับการซักแต่ละครั้ง ถ้าเป็นครอบครัวเล็ก หรืออยู่คนเดียวก็อาจจะไม่มีผ้าเป็นปริมาณ การเลือกซื้อเครื่องซักผ้าควรเลือกความจุของถังซักผ้าให้เหมาะสมกับปริมาณผ้าที่ต้องซักในแต่ละครั้งนั่นเอง เพราะนอกจากจะเป็นการประหยัดเวลาแล้ว ยังเป็นการประหยัดพลังงานอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นถ้าเป็นครอบครัวขนาดเล็กสามารถใช้เครื่องซักผ้าขนาดไม่เกิน 10 ลิตรได้ แต่ถ้าเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ต้องใช้เครื่องซักผ้าที่มีขนาด 10 ลิตรขึ้นไป 
  • เลือกเครื่องซักผ้าที่มีระบบ Inverter ระบบ Inverter เรียกได้ว่ามีความจำเป็นพอสมควรสำหรับการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าใหม่ เนื่องจากระบบนี้จะช่วยให้การทำงานของเครื่องซักผ้านั้นมีเสียงรบกวนที่น้อยมากแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัดพลังงาน ซักผ้าได้สะอาด และประหยัดปริมาณน้ำในการซักผ้าได้อีกด้วย ดังนั้นการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าควรเลือกแบบที่มีระบบ Inverter นั่นเอง

คำถามที่พบบ่อยของเครื่องซักผ้า

ถ้าไม่มองถึงลักษณะภายนอกที่มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดแล้วนั้น เครื่องซักผ้าทั้ง 2 ประเภทนี้ยังมีความแตกต่างในเรื่องของการทำงานอีกพอสมควร

  • เครื่องซักผ้าฝาหน้า เป็นเครื่องซักผ้าที่ทำงานด้วยโปรแกรมอัตโนมัติเป็นส่วนมาก มีข้อดีที่สามารถซักผ้าได้หลากหลายรูปแบบ ซักผ้าได้สะอาด ประหยัดน้ำ หรือเรียกได้ว่ากดเพียงปุ่มเดียวเมื่อถึงเวลาก็นำผ้าไปตากได้เลย แต่ข้อเสียสำหรับเครื่องซักผ้าประเภทนี้คือใช้เวลานานในการซักผ้าแต่ละครั้ง ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ต้องใช้พื้นที่พอสมควรในการติดตั้ง และยังมีราคาที่ค่อนข้างสูงอีกด้วย 
  • เครื่องซักผ้าฝาบน เป็นเครื่องซักผ้าระบบกึ่งอัตโนมัติที่ใช้งานง่าย ราคาแพง มีให้เลือกหลายรุ่น หลายความจุ ควบคุมการทำงานได้ง่ายด้วยปุ่มควบคุมที่อยู่ด้านบนตัวเครื่อง ส่วนการซักผ้าก็ทำได้รวดเร็วกว่า เนื่องจากเป็นการควบคุมการทำงานด้วยมือ ทำให้สามารถเพิ่ม หรือลดเวลาซักได้ตามต้องการ กลไกต่างๆ ของเครื่องซักผ้าไม่ซับซ้อนทำให้ง่ายในการซ่อมบำรุง

เครื่องซักผ้าฝาบนแบบ 2 ถังนั้นเป็นเครื่องซักผ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นเครื่องซักผ้าที่ใช้งานง่าย มีความทนทาน ซักผ้าได้ครั้งละเป็นจำนวนมาก อีกทั้งการมี 2 ถังที่แยกประเภทการทำงานเป็นถังซัก และถังปั่นหมาดจะช่วยให้การซักผ้าทำได้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งเครื่องซักผ้าประเภทนี้จะไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากนัก แต่เป็นเครื่องซักผ้าที่ตอบสนองความต้องการพื้นฐานจองการซักผ้าได้อย่างยอดเยี่ยม

สำหรับฟังก์ชันอบผ้านั้นเป็นระบบการทำให้ผ้าแห้งซึ่งจะมีอยู่ในเครื่องซักผ้าประเภทฝาหน้าเป็นส่วนมาก ซึ่งฟังก์ชันอบผ้าแห้งนั้นมีประโยชน์มากสำหรับการซักผ้าในฤดูฝน เพราะว่าเมื่อฝนตกการตากผ้าไม่สามารถทำได้สะดวก และเมื่อไม่มีแดดอาจทำให้ผ้ามีกลิ่นหืน ซึ่งฟังก์ชันการอบผ้าจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่งระบบการอบผ้าที่แนะนำคือระบบ Heat Pump ที่เป็นใช้การควบแน่นเพื่อนำความชื้นออกจากเนื้อผ้า โดยระบบนี้นอกจากจะช่วยทำให้ผ้าแห้งได้โดยไม่ต้องพึ่งแสงแดด ยังสามารถช่วยถนอมเนื้อผ้าได้อีกด้วย

Scroll to Top