สำหรับการเลี้ยงลูกแมวให้เติบโตมามีความแข็งแรง และมีสุขภาพที่ดีนั้น สิ่งที่ควรใส่ใจตั้งแต่แรกเริ่มเลยนั่นคือเรื่องของอาหาร เนื่องจากร่างกายของแมวเด็กนั้นมีความต้องการสารอาหารเพื่อพัฒนาการเจริญเติบโต รวมไปถึงการสร้างกล้ามเนื้อ และกระดูกที่แตกต่างจากแมวผู้ใหญ่ ดังนั้นการเลือกอาหารลูกแมวให้เหมาะสมกับช่วงวัยของแมวที่เลี้ยงไว้นั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในบทความนี้จะมาแนะนำ 10 อาหารลูกแมวที่เหมาะสม และควรหามาใช้งานสำหรับปี 2022
ลองมาดูกันว่า 10 อันดับอาหารลูกแมว แต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ
1
PURINA ONE HEALTHY KITTEN FORMULA
อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ของ DHA
PURINA ONE HEALTHY KITTEN FORMULA เป็นอาหารลูกแมวแบบเม็ด ที่เหมาะสำหรับแมวเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 3 สัปดาห์ไปจนถึง 1 ปี โดยอาหารตัวนี้อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบอันทรงคุณค่า ที่ผ่านการเลือกสรรมาเป็นพิเศษ เริ่มด้วยรสชาติของไก่งวงที่ช่วยให้กินได้ง่าย และยังมีสารอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น DHA ที่พัฒนาระบบสมอง และประสาทการมองเห็น อีกทั้งยังช่วยให้เซลล์ในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ Antioxidant นอกจากนี้ยังมี Calciam / Phosphorus / Omega3-6 / Vitamins / Selenium
2
NEKKO Kitten Pouch
กินได้ง่าย ช่วยพัฒนาการเคี้ยว บำรุงระบบประสาท
สำหรับ NEKKO Kitten Pouch เป็นอาหารลูกแมวเปียกที่เหล่าคนรักแมวทั้งหลายให้ความไว้วางใจ เนื่องจากอาหารตัวนี้เหมาะสำหรับลูกแมวที่เพิ่งเริ่มหัดเคี้ยวอาหาร ด้วยลักษณะของอาหารที่เป็นมูสเนื้อนุ่มที่อัดแน่นด้วยโปรตีนจากปลาทะเล นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างพัฒนาการของแมวเด็ก ไม่ว่าจะเป็น ไขมัน / วิตามินอี / ทอรีน / โอเมก้า 3 / พรีไบโอติก ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะช่วยพัฒนาระบบต่างของลูกแมว ไม่ว่าจะเป็นสมอง ประสาทตา เสริมสร้างกระดูก และฟัน อีกทั้งยังช่วยให้มีขนนุ่มสวยอีกด้วย
3
Happy Cat Minkas Kitten Care
ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกแมวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Happy Cat Minkas Kitten Care เป็นอาหารลูกแมวชนิดเม็ดจากประเทศเยอรมนี ซึ่งเหมาะกับลูกแมวที่มาอายุ 1 – 3 เดือน โดยอาหารตัวนี้อัดแน่นไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างร่างกายทุกระบบให้กับแมวน้อย ทำให้เติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง ให้โปรตีนจากเนื้อปลาทะเลสูงถึง 32% มี Fiber / Yucca Schidigera / Omega3-6 และ Calcuim ที่ช่วยบำรุงผิวหนัง เสริมสร้างภูมิต้านทาน และยังดูแลระบบขับถ่ายให้ทำงานได้อย่างเต็มที่
4
ROYAL CANIN Starter Mother & Baby Cat
ดูแลได้ทั้งแม่แมว และลูกแมว
สำหรับ ROYAL CANIN นั้นเป็นแบรนด์อาหารแมวที่เหล่าทาสแมวให้ความไว้วางใจเป็นอย่างดี โดย ROYAL CANIN Starter Mother & Baby Cat เป็นอาหารลูกแมวแบบเปียกที่เหมาะสมกับลูกแมวอายุ 1 – 4 เดือน และยังเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับแม่แมวที่กำลังตั้งท้อง หรือให้นมลูกอยู่ด้วย โดยอาหารตัวนี้อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน / ไขมัน / วิตามินอี และทอรีน ที่ช่วยพัฒนาระบบการเคี้ยว ให้พลังงานสูง และมีสัดส่วนของสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของลูกแมว รวมไปถึงสาร Antioxidant เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
5
Hill’s kitten Science Diet
ไม่มีมีการแต่งสี และกลิ่น มั่นใจได้ในความปลอดภัย
Hill’s kitten Science Diet จัดว่าเป็นอาหารลูกแมวหลังหย่านม – 1 ปี ที่เน้นในเรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากอาหารตัวนี้ไม่มีการผสมสารแต่งสี หรือสารแต่งกลิ่นใดๆ เข้ามาเลย โดยสารอาหารหลักนั้นคือ DHA จากน้ำมันปลาทะเล ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาท และสมองของลูกแมว ให้คุณค่าโปรตีนมากถึง 37% นอกจากนี้ยังมี Tuarine ที่ช่วยในการเจริญเติบโต ระบบไหลเวียนของเลือด และระบบย่อยอาหาร รวมไปถึง Calcium ที่ช่วยบำรุงกระดูก
6
Whiskas Cat Food Wet Pouch Junior Mackerel
อาหารลูกแมวยอดฮิต ให้สารอาหารครบถ้วน
Whiskas Cat Food Wet Pouch Junior Mackerel เป็นอาหารลูกแมวแบบเปียกซึ่งเหมาะสมกับช่วงอายุ 2 เดือน – 1 ปี ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีราคาที่เหมาะสม หาซื้อได้ง่ายแล้วนั้น อาหารตัวนี้ยังมีสารอาหารที่ลูกแมวต้องการอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนจากปลา Mackerel ที่เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และยังมี Calcium / Phosphorus และ Vitamin D ที่ช่วยพัฒนาระบบการเจริญเติบโตของกระดูก และฟัน พร้อมทั้งสาร Antioxidant จากธรรมชาติที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
7
SHEBA Kitten FOOD WET POUCH
อัดแน่นด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ ผ่านมาตรฐาน AAFCO
สำหรับ SHEBA Kitten FOOD WET POUCH เป็นอาหารแมวแบบเปียกที่เหมาะสมกับลูกแมวที่มีอายุ 2 – 12 เดือน โดยอาหารตัวนี้เป็นการผสมผสานคุณประโยชน์จากวัตถุดิบชั้นเลิศ เพื่อให้แมวน้อยได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างสมดุล ไม่ว่าจะเป็น Taurine / EDTA / Vitamin E และ Antioxidant ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะช่วยพัฒนาระบบต่างๆ ของลูกแมวให้เติบโตอย่างแข็งแรง รวมไปถึงมีพัฒนาการที่เหมาะสมกับวัย
8
Me-O Kitten
อาหารลูกแมวที่ขายดีอันดับ 1
Me-O Kitten เป็นอาหารลูกแมวแบบเปียกที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยอาหารตัวนี้อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการของลูกแมว ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนจากเนื้อไก่ และปลาทูน่า รวมไปถึง Vitamin / Mineral และ Fat ที่จะช่วยบำรุงกระดูก และฟัน บำรุงสายตา ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านต่างๆ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ขนแน่น เหมาะสำหรับลูกแมวที่หย่านมแล้วไปจนถึงอายุ 1 ปี
9
Maru Kids
ดีต่อสุขภาพด้วยอาหารสูตรควบคุมความเค็ม
อย่างที่ทราบกันดีว่ารสเค็มนั้นเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นแมว หรือหมา ซึ่ง Maru Kids อาหารลูกแมวแบบเม็ดเข้าใจในเรื่องนี้ดี จึงได้พัฒนาสูตรอาหารลูกแมวที่ควบคุมความเค็ม ไม่ผสมสี ไม่มีสารตกค้าง เพื่อสุขภาพที่ดีของแมวน้อยนั่นเอง โดยอาหารตัวนี้มีความเค็มน้อยกว่า 1% มีปริมาณเกลือแร่ที่เหมาะสม พร้อมสารอาหารที่ทรงคุณค่าไม่ว่าจะเป็น สารต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน E กรดไขมัน และโอเมก้า 3 อีกทั้งยังมี Hairball Control เพื่อป้องกันการเกิดก้อนขนอุดตันบริเวณลำไส้ เหมาะสำหรับลูกแมวหลังหย่านม – 1 ปี
10
CANAGAN Scottish Salmon
ให้แมวน้อยมีร่างกายแข็งแรง ขนสวยเงางาม
สำหรับ CANAGAN Scottish Salmon เป็นอาหารลูกแมวแบบเม็ดที่เหมาะสำหรับลูกแมวหลังหย่านม – 1 ปี โดยอาหารตัวนี้มีโปรตีนสูงถึง 35% ที่ช่วยให้ร่างกายของลูกแมวมีพัฒนาการที่ดี มีความแข็งแรง บำรุงสุขภาพผิว ให้ขนมีความเงางาม มีโอเมก้า 3 จากปลาทะเล 4 ชนิด ช่วยพัฒนาระบบประสาท และระบบสายตา รวมไปถึง ผัก สมุนไพร วิตามิน และแร่ธาตุ 25% เพื่อให้ลูกแมวได้รับสารอาหารต่างๆ อย่างครบถ้วน
วิธีการเลือกซื้ออาหารลูกแมว
- เลือกตามช่วงอายุของลูกแมว สำหรับขั้นตอนแรกในการเลือกอาหารลูกแมวนั้น คือการเลือกตามช่วงอายุของลูกแมวนั่นเอง เพราะว่าอาหารลูกแมวจะมีการระบุช่วงอายุที่เหมาะสมสำหรับอาหารตัวนั้นๆ ไว้อย่างชัดเจน เพราะว่าลูกแมวในแต่ละช่วงวัยนั้นต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันออกไป โดยอาหารลูกแมวส่วนมากจะอยู่ในช่วงหลังหย่านม หรือประมาณ 2 เดือน ไปจนถึง 1 ปี แต่สูตรก็จะมีความแตกต่างออกไปเป็นระหว่าง 2 – 6 เดือน หรือ 4 – 12 เดือน เป็นต้น ดังนั้นการเลือกอาหารลูกแมวควรเลือกอาหารให้เหมาะสมกับช่วงอายุนั่นเอง
- เลือกจากประเภทของอาหาร อาหารลูกแมวที่ได้รับความนิยมนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป
- อาหารเปียก สำหรับอาหารลูกแมวแบบเปียกนั้นเรียกได้ว่าเหมาะสมกับลูกแมวที่เพิ่งหย่านมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความอ่อนนุ่ม กินได้ง่าย ย่อยง่าย ดีต่อระบบย่อยอาหารของลูกแมว อีกทั้งยังช่วยฝึกการเคี้ยวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีเนื้อสัตว์ผสมอยู่
- อาหารเม็ด อาหารลูกแมวแบบเม็ดนั้นก็จะเหมาะสมกับลูกแมวที่มีอายุเพิ่มขึ้นมาคือประมาณ 3 – 4 เดือนขึ้นไป ซึ่งอาหารประเภทนี้จะช่วยให้ลูกแมวมีพัฒนาการในการเคี้ยวอาหารที่ดีขึ้น และยังเป็นการฝึกให้คุ้นชินกับการกินอาหารเม็ดอีกด้วย
- อาหารผง อาหารลูกแมวแบบผงนั้นเป็นอาหารที่ต้องละลายน้ำอุ่นก่อนนำมาให้ลูกแมวกิน ซึ่งเหมาะสำหรับลูกแมวที่มีร่างกายอ่อนแอ หรือยังไม่สามารถกินอาหารประเภทอื่นได้ โดยอาหารแมวแบบผงนั้นจะช่วยให้ลูกแมวได้รับสารอาหารอย่างรวดเร็ว และเป็นการเพิ่มน้ำเข้าสู่ร่างกายแมวน้อยได้อย่างรวดเร็ว
- เลือกจากสารอาหาร ตามมาตรฐานแล้วนั้นอาหารลูกแมวแต่ละสูตรจะมีสารอาหารพื้นฐานที่คล้ายคลึงกัน แต่จะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่สูตรของแต่ละผู้ผลิต ซึ่งสารอาหารพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับลูกแมวนั้นได้แก่ โปรตีน / Colostrum / DHA / แคลเซียม และทอรีน และในบางสูตรอาจจะมีการเสริมสารอาหารประเภทอื่นๆ อย่างเช่นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ หรือวิตามินประเภทต่างๆ ลงไปด้วย ดังนั้นการเลือกซื้ออาหารลูกแมวควรเลือกซื้อที่มีสารอาหารพื้นฐานครบถ้วน
- เลือกอาหารที่มีมาตรฐาน การเลือกอาหารลูกแมวที่ถูกต้องนั้นต้องเลือกอาหารที่ได้มาตรฐาน โดยเป็นอาหารที่ถูกผลิตมาเพื่อลูกแมวโดยเฉพาะ และต้องมีมาตรฐานการผลิตต่างๆ ระบุอย่างชัดเจน โดยเฉพาะมาตรฐานการให้อาหารสัตว์ของ AAFCO จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าแมวน้อยจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ และไม่มีอันตรายอย่างแน่นอน