ในการขับขี่รถจักรยานยนต์ประเภทต่างๆ นั้นอุปกรณ์ที่จำเป็นที่สุดในการขับขี่ก็คือ “หมวกกันน็อค” นั่นเอง ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้กฎหมายของประเทศไทยระบุว่าจำเป็นที่ต้องสวมใส่ทุกครั้ง ถ้าไม่สวมใส่จะมีความผิด ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำตามกฎหมายแล้วนั้น ยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างมาก และยังช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
ลองมาดูกันว่าในปี 2022 มีหมวกกันน็อครุ่นไหนบ้างที่ควรมีไว้ใช้งาน
1
SHOEI GT-AIR PENDULUM TC-10
มาตรฐานความปลอดภัยระดับ MOTO GP
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นคงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ SHOEI ซึ่งเป็นแบรนด์หมวกกันน็อคระดับโลกที่ถูกเลือกใช้โดยนักแข่งระดับ MOTO GP ทำให้สามารถมั่นใจได้เรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่ง SHOEI GT-AIR PENDULUM TC-10 เรียกได้ว่าเป็นหมวกอีกหนึ่งรุ่นที่มีมาตรฐานความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยม ตัววัสดุมีความแข็งแรง น้ำหนักเบา ทนแรงกระแทกได้สูง ส่วนรูปทรงภายนอกนั้นถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพในการถ่ายเทอากาศอย่างยอดเยี่ยม พร้อมระบบลดเสียงลดกวนจากภายนอก
2
SIMPSON GHOST BANDIT
นอกจากความปลอดภัยต้องมีสไตล์ที่ชัดเจน
SIMPSON GHOST BANDIT เป็นหมวกกันน็อคจากแบรนด์ระดับโลกอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะผู้ที่มีความหลงใหลในรถมอเตอร์ไซค์ประเภท Custom Bike เนื่องจากหมวกรุ่นนี้ผลิตจาก Carbon Fiber ทั้งใบ ทำให้มีความแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา เรียกได้ว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานสากล จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างคือเป็นหมวกที่มีรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เพิ่มความโดดเด่นทุกครั้งที่นำมาใช้งาน
3
Real Strom
สะดวกสบาย ปลอดภัยในทุกเส้นทาง
Real Strom เป็นหมวกกันน็อคแบบเต็มใบชนิดที่ยกคางได้จากค่าย Real อีกหนึ่งแบรนด์หมวกกันน็อคที่ทุกคนให้การยอมรับ โดยจุดเด่นของหมวกรุ่นนี้คือการยกคางพร้อมกระจก 2 ชั้น 2 สีให้เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมของสภาวะในการขับขี่ ตัวหมวกความแข็งแรง ทนทาน รับแรงกระแทกได้สูง ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ อย่างเช่นมาตรฐาน มอก และ ECE นวมภายในมีความแน่นหนา ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้เป็นอย่างดีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
4
Bilmola Rapid S
มั่นใจได้ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยจากยุโรป
สำหรับ Bilmola Rapid S นั้นเป็นหมวกแบรนด์ไทยคุณภาพสูงที่มั่นใจได้เรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากเป็นการผลิตจากผู้ผลิตที่คลุกคลีอยู่ในวงการหมวกกันน็อคของประเทศไทยเป็นเวลาหลายสิบปี มีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน มีการพัฒนาในเรื่องของการออกแบบ และความปลอดภัยให้มีมาตรฐานเทียบเท่ามาตรฐานยุโรป ECE ภายนอกถูกออกแบบให้รองรับหลักอากาศพลศาสตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ภายในบุนวมที่มีความกระชับ ช่วยลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี
5
B.M. Air Max
คุณภาพคุ้มค่า คุ้มราคา
B.M. Air Max เป็นหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบที่มาพร้อม Shield แบบใสที่มีขนาดใหญ่ ทำให้การขับขี่รถจักรยานยนต์ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก Shield จะช่วยปกป้องใบหน้าจากเศษวัสดุที่กระเด็นขึ้นมา รวมไปถึงป้องกันไม่ให้ลมตีหน้าได้อย่างดี ส่วนตัววัสดุนั้นผลิตมาจากวัสดุคุณภาพสูง มีความแข็งแรง ส่วนนวมภายในมีความแน่นหนา ช่วยรับแรงกระแทกได้ดี ผ่านมาตรฐาน มอก. มั่นใจได้ในคุณภาพ และความปลอดภัย
6
SHARK Spartan GT carbon black
โดดเด่นด้วยลาย Carbon แท้เต็มใบ
สำหรับ SHARK spartan GT carbon black เป็นหมวกกันน็อคคุณภาพสูงที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าในการนำมาใช้งานอย่างแน่นอน เนื่องจากหมวกรุ่นนี้ผลิตมาจาก Carbon Fibers และ Multiaxial Fiberglass ที่เป็นเทคนิคในการถักทอ Fiberglass แบบพิเศษ ช่วยให้หมวกมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่น รวมไปถึงโฟมภายในหมวกที่ใช้เทคโนโลยี Multi-density EPS ช่วยรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี พร้อมระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ภายนอกหมวกยังโดดเด่นด้วยลวดลายของ Carbon Fibers ที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย
7
INDEX 811 i-shield
รูปทรงเรียบง่าย เน้นประโยชน์ใช้งาน
สำหรับ INDEX 811 i-shield นั้นเรียกได้ว่าเป็นหมวกกันน็อคแบบเต็มใบรุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่น เนื่องจากหมวกรุ่นนี้นั้นมีราคาที่เหมาะสม รูปลักษณ์ภายนอกดูเรียบง่าย แต่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวหมวกผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ ให้ความแข็งแรง ทนทาน นวมหุ้มด้านในถูกจัดวางในตำแหน่งที่จะกระจายแรงกระแทกได้อย่างเหมาะสม ช่วยลดความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี ส่วน Shield หน้านั้นเป็นแบบใส ช่วยเพิ่มทัศนะวิสัยในการขับขี่
8
O’Neal 5SRS
จัดเต็มเรื่องความปลอดภัยในทุกสภาพทาง
O’Neal 5SRS เป็นหมวกกันน็อคสายวิบากแบบเต็มใบอีกหนึ่งรุ่นที่ควรมีไว้ใช้สายสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหมวกในสไตล์นี้ เพราะว่าหมวกรุ่นนี้นั้นได้รับการออกแบบมาให้ปกป้องส่วนศีรษะอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นโครงของหมวกที่เป็นแบบ 2 ชั้นผลิตจากวัสดุ ABS พร้อมโฟม EPS ทำให้ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ ไมว่าจะเป็นมาตรฐาน DOT, ECE 22-05 รวมถึงมาตรฐาน AS/NZS อีกทั้งยังมีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ และเทคโนโลยี Dri-Lex เพื่อการดูดซับเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9
HJC RPHA 11
หมวกกันน็อคทรง Racing ที่มาแรงมากในตอนนี้
สำหรับ HJC RPHA 11 เป็นหมวกกันน็อคแบบเต็มใบทรง Racing อีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามอง เนื่องจากหมวกรุ่นนี้นั้นได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากในสนามแข่ง ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ และความปลอดภัย ตัวหมวกนั้นผลิตมาจาก PIM PLUS ซึ่งเป็นวัสดุชนิดพิเศษของแบรนด์ HJC ที่มีความเหนียว ความแข็งแรง น้ำหนักเบา รวมไปถึงการออกแบบด้วย Aerodynamic shell structure เพื่อรองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง อีกทั้งยังมี Cheek Pads Emergency Quick ที่สามารถถอดนวมบริเวณแก้มได้อย่างรวดเร็วเพื่อความปลอดภัยนั่นเอง
10
ARAI RX7V SAMURAI
หมวกกันน็อคระดับโลกที่ผลิตแบบ Hand Made
แบรนด์ ARAI นั้นได้เรียกได้ว่าเป็นผู้ผลิตหมวกกันน็อคชั้นนำของโลกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างชัดเจน ซึ่ง ARAI RX7V SAMURAI นั้นก็สร้างความแตกต่างด้วยการเป็นหมวกที่ผลิตแบบ Hand made แต่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างแบบ PB-SNC2 R75 shell construction ที่ช่วยให้หมวกมีความแข็งแรง shield หน้าที่ถูกปรับตำแหน่งเพื่อให้มีพื้นที่ภายในหมวกมากขึ้น รวมไปถึงระบบ shield Lock ที่ใช้แบบเดียวกับหมวกรถแข่ง F1 ทำให้สามารถถอดได้ง่าย นวมภายในถูกออกแบบให้เข้ากับสรีระของร่างกาย ทำให้ช่วยลดแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการเลือกซื้อหมวกกันน็อค
- เลือกจากรูปแบบการใช้งาน สำหรับการเลือกหมวกกันน็อคเพื่อนำมาใช้งานนั้น สิ่งแรกที่ควรนำมาพิจารณาคือรูปแบบการใช้งานนั่นเอง เพราะว่าหมวกกันน็อคแต่ละประเภทนั้นถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการเลือกหมวกกันน็อคที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานจะช่วยให้การขับขี่รถจักรยานยนต์นั้นมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยหมวกกันน็อคสามารถแบ่งตามรูปการงานได้ดังนี้
- หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ (Full Face) เป็นหมวกกันน็อคที่ถูกออกแบบมาให้มีระดับความปลอดภัยที่สูงที่สุด เพราะตัวหมวกจะป้องกันส่วนหัวทั้งหมดไว้ และมี shield ขนาดใหญ่เพื่อป้องกันแรงปะทะของลม และเศษวัสดุที่อาจกระเด็นมาโดนใบหน้า เหมาะสำหรับการขับรถที่ใช้ความเร็วสูง หรือการเดินทางไกล แต่ก็สามารถใช้งานเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน
- หมวกกันน็อคแบบเปิดหน้า (Open Face) เป็นอีกหมวกอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากหมวกรุ่นนี้นอกจะให้ความปลอดภัยได้มากแล้ว ยังให้ความรู้สึกสบายในเวลาขับขี่ และเพิ่มทัศนะวิสัยในการมองเห็น เนื่องจากบริเวณด้านหน้าของหมวกตั้งแต่หน้าผากถึงปลายคางจะเปิดโล่ง มีเพียง shield ที่ยกขึ้นลงเท่านั้น
- หมวกกันน็อคแบบยกคาง (Modular) หมวกประเภทนี่เป็นการผสมผสานระหว่างหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ และหมวกกันน็อคแบบเปิดหน้า โดยรูปทรงจะเหมือนหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ แต่สามารถยกบริเวณคางขึ้นมาด้านบนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างที่สวมหมวกกันน็อคอย่างเช่นการดื่มน้ำ การพูดคุย นั่นเอง
- หมวกกันน็อคแบบวิบาก (Motocross) เป็นหมวกกันน็อคที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาพพื้นที่เสี่ยง และพร้อมเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา โดยหมวกกันน็อคประเภทนี้ด้านหน้าบริเวณกระบังหมวก และคางจะยื่นออกมามากกว่าหมวกกันน็อคแบบปกติ เพื่อช่วยปกป้องการมองเห็นจากดินโคลนที่กระเด็นขึ้นมา และยังช่วยลดแรงกระแทก รวมถึงช่วยให้หายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้นในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุนั่นเอง
- หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบ (Half Face) หมวกกันน็อคประเภทนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นหมวกกันน็อคที่สวมใส่เพื่อไม่ให้โดนตำรวจจับนั่นเอง เนื่องจากรูปทรงของหมวกนั้นจะป้องกันได้เพียงส่วนบนของหัว ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุยังมีโอกาสได้รับบาดเจ็บมากกว่าการสวมหมวกกันน็อคประเภทอื่นๆ ดังนั้นถ้าไม่มีความจำเป็นจริงๆ ก็ไม่ควรสวมใส่หมวกประเภทนี้ในการขับขี่รถจักรยานยนต์
- เลือกหมวกกันน็อคที่มีมาตรฐาน นอกจากประเภทของหมวกกันน็อคที่เหมาะสมแล้วนั้น สิ่งที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาดคือมาตรฐานในการผลิต และมตรฐานความปลอดภัยนั่นเอง เพราะหมวกกันน็อคคือสิ่งที่จะมาปกป้องศีรษะซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของร่างกาย ดังนั้นการเลือกซื้อหมวกกันน็อคต้องซื้อหมวกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยแล้วเท่านั้น ซึ่งมาตรฐานขั้นต่ำสุดที่ยอมรับได้คือมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศไทย หรือมาตรฐาน มอก. ห้ามซื้อหมวกกันน็อคที่ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยรองรับมาใช้งานอย่างเด็ดขาด