ยาฆ่าเห็บ

10 สุดยอดยาฆ่าเห็บ ยี่ห้อไหนดี ที่คุณต้องมีประจำปี 2022

สำหรับเห็บหมัดนั้นเรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่สร้างความปวดหัว และความวิตกกังวลให้กับเหล่าคนรักสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก เพราะว่าเห็บหมัดนั้นนอกจากจะสร้างความรำคาญให้กับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดแล้ว ยังเป็นพาหะของโรคร้ายต่างๆ ที่ทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการป่วยอีกด้วย การกำจัดเห็บนั้นมีมากมายหลากหลายวิธี ซึ่งการใช้ยาฆ่าเห็บก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ได้รับความนิยม ลองมาดูกันว่าในปี 2022 มียาฆ่าเห็บแบบไหนบ้างที่ควรนำมาใช้

ลองมาดูกันว่า 10 อันดับยาฆ่าเห็บ แต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ

1

Be-Tick

มั่นใจได้ในมาตรฐานความปลอดภัย

สำหรับ Be-Tick เป็นยาฆ่าเห็บที่มั่นใจได้ในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย เนื่องจากยาตัวนี้ผ่านมาตรฐานอาหารและยา (อย.) ทำให้ไม่ต้องกลัวสัตว์เลี้ยงจะได้รับอันตรายเมื่อใช้งานอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำ ตัวยาสำคัญสำหรับ Be-Tick คือ ฟิโพรนิล 10% ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการจัดการเห็บหมัดอย่างได้ผล การใช้ยาตัวนี้เหมาะสำหรับสุนัขที่มีขนาดระหว่าง 20 – 40 กิโลกรัม และมีอายุมากกว่า 8 สัปดาห์ขึ้นไป


2

FRONTLINE Plus For Dogs

ยาฆ่าเห็บสำหรับสุนัขขนาดเล็กโดยเฉพาะ

FRONTLINE Plus for Dogs จัดว่าเป็นยาฆ่าเห็บแบบหยอดสำหรับสุนัขขนาดเล็กที่มีน้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัมโดยเฉพาะ โดยมีตัวยาออกฤทธิ์ที่สำคัญคือ Fipronil‎ ‎9.8%/(S) – Methoprene‎ ‎8.8% ทำให้สามารถกำจัดเห็บ หมัด รวมไปถึงไข่ของเห็บ หมัด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมงหลังการหยอดยา ยาตัวนี้เหมาะสำหรับสุนัขที่มีน้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม และมีอายุมากกว่า 8 สัปดาห์


3

Broadline Cat

แมวที่คุณรักก็จะไม่มีเห็บมารบกวนอีกต่อไป

สำหรับ Broadline Cat เป็นยาฆ่าเห็บแบบหยอดที่ใช้สำหรับแมวโดยเฉพาะ สารออกฤทธิ์ที่สำคัญได้แก่ Fipronil, Methoprene, Eprinomectin, Praziquantel ซึ่งตัวยาทั้ง 4 ชนิดจะช่วยป้องกัน และกำจัดเห็บ หมัด เหา พยาธิประเภทต่างๆ  โดยออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วภายใน 8 ชั่วโมง รวมไปถึงช่วยรักษาอาการแพ้ผิวหนัง และขี้เรื้อนแห้งได้อีกด้วย ยาตัวนี้เหมาะสำหรับแมวขนาด 2.5 – 7.5 กิโลกรัม ที่มีอายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป


4

Bayer Bayticol 6% e.c.

ใช้งานได้กับสุนัขทุกขนาด และทุกช่วงอายุ

Bayer Bayticol 6% e.c. เป็นยาฆ่าเห็บแบบสเปรย์พ่น หรือใช้ผสมน้ำอาบ ที่สามารถใช้ได้กับสุนัขในทุกช่วงวัย และทุกช่วงอายุ เนื่องจากยาตัวนี้ให้ผลกระทบค่อนข้างน้อย มีความปลอดภัยสูง ตัวยาออกฤทธิ์ที่สำคัญได้แก่ Flumethrin 6% ที่สามารถป้องกันเห็บได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์นับตั้งแต่เริ่มใช้งาน วิธีการใช้คือผสม Bayer Bayticol 6% e.c. 1 ซีซีต่อน้ำ 1.5 ลิตร แล้วใช้ฉีดพ่นให้ทั่วตัวสุนัข หรือผสม 10 ซีซีต่อน้ำ 15 ลิตรเพื่อใช้อาบให้สุนัข

5

N-Tick

ตัดวงจรชีวิตของเห็บได้อย่างเด็ดขาด

สำหรับ N-Tick เป็นยาฆ่าเห็บสำหรับสุนัขแบบหยอดที่ช่วยจัดการเห็บอย่างได้ผลโดยตัวยาจะออกฤทธิ์ตัดวงจรชีวิตของเห็บอย่างเด็ดขาดเมื่อมีการใช้ยาตามคำแนะนำอย่างถูกต้อง และใช้อย่างสม่ำเสมอ ใช้งานง่ายเพียงหยดในบริเวณหลังคอ หรือบริเวณอื่นที่สุนัขไม่สามารถเลียได้ถึง โดยยาตัวนี้สามารถใช้ได้กับสุนัขขนาด 10 – 40 กิโลกรัมเพียงแค่ปรับปริมาณยาให้เหมาะสมกับขนาดน้ำหนักของสุนัข

6

Revolution

ไม่ว่าเห็บหรือพยาธิก็สามารถจัดการได้อย่างเรียบร้อย

Revolution เป็นยาฆ่าเห็บแบบหยอดสำหรับแมวโดยเฉพาะ โดยมีสารออกฤทธิ์สำคัญคือ Selamectin, Sarolaner ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถจัดการกับเห็บ พยาธิ และไรหูที่เป็นสาเหตุของอาการบวมแดงภายในรูหูของแมวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยาตัวนี้เหมาะสำหรับแมวที่มีขนาด 2.6 – 7.5 กิโลกรัม มีอายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป ออกฤทธิ์เป็นเวลา 30 วัน

7

YANA Tick Flea Spray Dog Cat

แค่ฉีดพ่นก็จัดการกับเห็บได้อย่างง่ายดาย

สำหรับ YANA Tick Flea Spray Dog Cat เป็นยาฆ่าเห็บแบบสเปรย์ฉีดพ่น โดยมีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญคือ Fipronil 0.25% ซึ่งยาตัวนี้สามารถใช้งานได้ทั้งสุนัข และแมวที่มีอายุ 3 เดือนขึ้นไปในทุกขนาดน้ำหนัก มีระยะเวลาออกฤทธิ์ 30 วัน สามารถใช้งานได้บ่อยตามต้องการ แต่เมื่อใช้แล้วควรงดอาบน้ำ 2 วัน ไม่สามารถใช้กำจัดเห็บบนพื้น หรือบริเวณกรงได้

8

Dr.Merge Natural Spray

เพิ่มความปลอดภัยให้สัตว์เลี้ยงด้วยสารสกัดสมุนไพร

Dr.Merge Natural Spray เป็นยาฆ่าเห็บแบบสเปรย์ฉีดพ่น ซึ่งยาตัวนี้ใช้สารสกัดจากสมุนไพร 100% เป็นสารออกฤทธิ์กำจัดเห็บหมัด นั้นคือสาร Anonaine ที่สกัดจากเมล็ดน้อยหน่า โดยมีประสิทธิภาพในการทำงานไม่แพ้ยาประเภทอื่นๆ ที่เป็นสารเคมี สามารถใช้กับสัตว์เลี้ยงได้ทุกช่วงวัย และทุกขนาดน้ำหนัก ซึ่งจากจะให้กำจัดเห็บแล้วยังสามารถใช้กำจัดแมลงรบกวนภายในบ้าน และยังใช้กับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย

9

Cleartix Cat

ควบคุมเห็บหมัดในแมวอย่างได้ผล

สำหรับ Cleartix Cat เป็นยาฆ่าเห็บแบบหยอดสำหรับแมวโดยเฉพาะ มีสารสำคัญออกฤทธิ์คือ Fipronil โดยยาตัวนี้สามารถจัดการกับเห็บอย่างได้ผล ด้วยการจัดวงจรการเกิดของไข่ และตัวอ่อนเห็บ มีความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังช่วยให้ขนของแมวมีความแข็งแรง ลดอาการขนร่วง ป้องกันโรคผิวหนังอย่างเช่นโรคเรื้อนได้ เหมาะสำหรับแมวทุกขนาดน้ำหนักที่มีอายุมากกว่า 8 สัปดาห์

10

NexGard Spectra

ยากินกำจัดเห็บที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับสุนัข

NexGard Spectra เป็นยาฆ่าเห็บแบบใช้กินสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ มีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญคือ Afoxalaner / Milbemycin Oxime ที่จะช่วยจัดการเห็บอย่างได้ผลภายในเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งนอกจากจะกำจัดเห็บแล้ว ยาตัวนี้ยังสามารถจัดการกับสัตว์รบกวนประเภทอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นหมัด พยาธิประเภทต่างๆ รวมไปถึงช่วยรักษาโรคผิวหนังอย่างเช่นขี้เรื้อนได้อีกด้วย ใช้ได้กับสุนัขอายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไปทุกขนาดน้ำหนัก โดยให้กินเดือนละ 1 ครั้ง

วิธีการเลือกซื้อยาฆ่าเห็บ

  • เลือกจากขนาดของสัตว์เลี้ยง การเลือกซื้อยาฆ่าเห็บเพื่อมาใช้กับสัตว์เลี้ยงที่เรารักไม่ว่าจะเป็นสุนัข หรือแมวนั้น สิ่งที่ควรนำไปใช้ประกอบการพิจารณาคือขนาดน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงนั่นเอง เพราะว่ายาฆ่าเห็บแต่ละชนิดนั้นมีปริมาณสารออกฤทธิ์ที่ถูกคำนวณมาแล้วว่าเหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดน้ำหนักตัวเท่าไหร่จึงจะใช้ได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง ดังนั้นการเลือกซื้อยาฆ่าเห็บควรซื้อให้เหมาะกับขนาดน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง
  • เลือกจากอายุของสัตว์เลี้ยง ยาฆ่าเห็บแต่ละแบบนั้นจะมีการระบุอายุที่เหมาะสมสำหรับสัตว์เลี้ยงที่สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยมาให้เรียบร้อยแล้ว ยกตัวอย่างเช่นยาฆ่าเห็บแบบหยอดจะมีการระบุอายุว่าต้องใช้กับสัตว์เลี้ยงที่มีอายุมากกว่า 8 สัปดาห์ขึ้นไป หรือยาฆ่าเห็บแบบกินจะระบุว่าต้องใช้กับสัตว์เลี้ยงที่มีอายุ 12 สัปดาห์ขึ้นไป หรือแบบสเปรย์พ่นอาจจะรุบุมาว่าใช่กับสัตว์เลี้ยงได้ทุกช่วงอายุ ดังนั้นการเลือกซื้อยาฆ่าเห็บนอกจากจะต้องดูในเรื่องน้ำหนักที่เหมาะสมแล้ว ยังต้องดูในเรื่องของอายุที่เหมาะสมด้วย เพื่อให้การใช้งานมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง 
  • เลือกที่ระยะเวลาในการป้องกัน สำหรับยาฆ่าเห็บสำหรับสัตว์เลี้ยงนั้นจะมีระยะเวลาสูงสุดในการป้องกันที่อาจจะแตกต่างกันไปบ้างตามแต่ผู้ผลิต แต่ส่วนมากจะมีระยะเวลาในการป้องกันอยู่ที่ประมาณ 1 เดือนหลังจากเริ่มใช้ยา ซึ่งระหว่างที่อยู่ในระยะเวลา 1 เดือนเจ้าของควรหมั่นตรวจดูปริมาณเห็บว่าลดลงหรือไม่ หรือเมื่อครบกำหนดเวลาแล้วยังมีร่องรอยของเห็บอยู่ก็ควรใช้ยาฆ่าเห็บอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการใช้ยาฆ่าเห็บให้ได้ผลนั้นควรใช้เป็นเวลาต่อเนื่อง 2 – 3 เดือน 
  • เลือกจากสุขภาพของสัตว์เลี้ยง การเลือกยาฆ่าเห็บมาใช้นั้นต้องดูในเรื่องสุขภาพของสัตว์เลี้ยงเป็นสำคัญ เพราะว่ายาฆ่าเห็บอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อสัตว์เลี้ยงที่มีอาการป่วย มีการตั้งครรภ์ หรือมีอาการแพ้ยา ดังนั้นถ้าจะนำยาฆ่าเห็บมาใช้กับสัตว์เลี้ยงที่มีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงนั่นเอง 
  • เลือกจากมาตรฐาน การเลือกยาฆ่าเห็บนั้นควรเลือกยาที่ได้มาตรฐานต่างๆ มารับรอง เพราะว่าสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อนำยาเหล่านี้มาใช้คือความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงนั่นเอง ดังนั้นการเลือกซื้อยาฆ่าเห็บที่จะมั่นใจได้ควรเลือกยาที่ผ่านมาตรฐานการรับรองต่างๆ ถ้าเป็นในประเทศไทยควรเลือกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน อ.ย. เพื่อที่จะใช้ยาเหล่านั้นกับสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้อย่างปลอดภัย เพราะว่ายาหลายๆ ตัวที่ไม่ได้มีการรับรองแต่เมื่อนำมาใช้กลับได้ผลอย่างรวดเร็วนั้น อาจเกิดมาจากการที่ได้นำส่วนผสมซึ่งเป็นสารอันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้นำมาผสมด้วย ซึ่งเมื่อใช้ก็จะทำให้เกิดอันตรายกับสัตว์เลี้ยง

คำถามที่พบบ่อยของยาฆ่าเห็บ

เรื่องสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงที่มีผลต่อยาฆ่าเห็บนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่พบได้บ่อย แต่ก็ไม่สามารถบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกันเลยได้ เพราะว่าสัตว์เลี้ยงอย่างเช่นสุนัข หรือแมวบางสายพันธุ์เมื่อใช้ยาฆ่าเห็บบางประเภทไปจะก่อให้เกิดความผิดปกติ มีผลข้างเคียง หรือมีอาการแพ้เกิดขึ้นได้ ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อยาฆ่าเห็บมาใช้งานควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัย

เห็บนั้นเปรียบได้กับปรสิตที่เกาะอยู่บนตัวของสัตว์เลี้ยง ซึ่งนอกจากจะดูดเลือด และแพร่พันธุ์บนตัวสัตว์เลี้ยงแล้วนั้น ยังก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องสุขภาพตามมาอย่างมากมาย จนถึงขั้นอาจทำให้สัตว์เลี้ยงเสียชีวิตได้ ซึ่งปัญหาสุขภาพที่เกิดจากเห็บนั้นได้แก่ โรคโลหิตจาง โรคพยาธิเม็ดเลือดประเภทต่างๆ โรคพยาธิตัวตืด โรคภูมิแพ้น้ำลายเห็บ โรคอัมพาต เพียงเท่านี้จะเห็นได้ว่าการกำจัดเห็บนั้นสำคัญต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก

สำหรับยาฆ่าเห็บทั้งสองแบบนี้เรียกได้ว่าสามารถใช้งานได้ดีทั้งสองประเภท แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องระยะเวลาการออกฤทธิ์ และวิธีฆ่าเห็บนั่นเอง ซึ่งยาฆ่าเห็บแบบหยอดนั้นเมื่อหยอดลงไปบริเวณต้นคอของสัตว์เลี้ยงแล้วตัวยาจะแพร่กระจายไปทั่วตัวผ่านทางต่อมน้ำมัน เมื่อเห็บดูดกินเลือดก็จะตายเพราะฤทธิ์ยา โดยยาประเภทนี้จะออกฤทธิ์ในระยะเวลา 12 – 24 ชั่วโมงหลังการหยด มีระยะเวลาป้องกัน 1 เดือน ส่วนยาฆ่าเห็บแบบสเปรย์นั้นจะออกฤทธิ์ทันทีเมื่อใช้ คือเมื่อพ่นยาโดนตัวเห็บก็จะตายทันที แต่ยาฆ่าเห็บประเภทนี้มีระยะเวลาในการป้องกันสั้นกว่าแบบหยอด คือประมาณ 1 อาทิตย์ – 1 เดือน

แหล่งอ้างอิง



https://med.mahidol.ac.th

https://vet.kku.ac.th

Scroll to Top