ฟิล์มติดรถยนต์

10 สุดยอดฟิล์มติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ที่คุณต้องมีประจำปี 2022

สภาพอากาศของประเทศไทยในปัจจุบันที่แสงแดดมีความร้อนแรงราวกับอยู่ข้างๆ ดวงอาทิตย์ ทำให้การใช้งานยานพาหนะโดยเฉพาะรถยนต์นั้นจำเป็นต้องติดฟิล์มเพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดเข้ามาภายในรถยนต์ จนทำให้เกิดความร้อนมากเกินไป รวมไปถึงช่วยปกป้องอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถยนต์ไม่ให้เสื่อมสภาพจากความร้อนแรงของแสงแดดนั่นเอง สำหรับบทความนี้ลองมาดูกันว่าในปี 2022 มีฟิล์มติดรถยนต์ยี่ห้อไหนบ้างที่สามารถปกป้องคุณ รวมไปถึงรถยนต์ที่คุณรักได้จากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลองมาดูกันว่า 10 อันดับฟิล์มติดรถยนต์ แต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ

1

VCTECH

ฟิล์มนิรภัยที่ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

สำหรับ VCTECH เป็นฟิล์มติดรถยนต์ชนิดฟิล์มนิรภัยแบบใส ที่จะช่วยให้รถยนต์ของคุณมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากฟิล์มรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้รองรับแรงกระแทกได้มากเป็นพิเศษ ด้วยความหนามากกว่า 2 มิลลิเมตร มีการเพิ่มชั้นของ Polyester และเพิ่มปริมาณกาวทำให้สามารถยึดเกาะกับกระจกได้อย่างเหนียวแน่น และยังช่วยยึดไม่ให้กระจกแตกเป็นชิ้นๆ เมื่อได้รับการกระแทก ฟิล์มรุ่นนี้ผ่านมาตรฐาน ANSI Z97.1-1984 ของสหรัฐอเมริกา ถึงแม้จะกรองแสงได้ไม่มาก แต่ให้ความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่


2

MC Racing Film

ฟิล์มสีที่สร้างความโดดเด่นไม่เหมือนใคร

MC Racing Film เป็นฟิล์มติดรถยนต์ที่สร้างความโดดเด่นไม่เหมือนใครให้กับรถของคุณ ซึ่งจุดเด่นของฟิล์มรุ่นนี้คือมีสีสันที่แปลกออกไปคือสีเขียว และสีฟ้า ตัวฟิล์มมีความโปร่งใส ไม่ทึบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งรถยนต์เป็นอย่างมาก แต่นอกจากความสวยงามแล้วฟิล์มรุ่นนี้ก็มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดดที่ดีเยี่ยม สามารถเลือกค่าความเข้มได้ถึง 3 ระดับ ป้องกันแสง UV ได้มาถึง 99% ลดความร้อนได้มากถึง 55%


3

Master MT10HC

ฟิล์มใสเพิ่มความสว่าง ช่วยให้รถดูกว้างขึ้น

สำหรับ Master MT10HC เป็นฟิล์มติดรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ เนื่องจากฟิล์มรุ่นนี้นั้นเป็นฟิล์มแบบใสที่จะช่วยเพิ่มความสว่างให้กับห้องโดยสาร ช่วยให้รถดูโล่ง กว้าง ไม่อึดอัด ช่วยให้เพิ่มทัศนะวิสัยในการขับขี่ให้สามารถมองเห็นได้ชัดมากขึ้นโดยการขับขี่ในตอนกลางคืน ถึงแม้ว่าจะเป็นฟิล์มใส แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพในการป้องกัน ซึ่งฟิล์มสามารถกันรังสี UV ได้ถึง 99% มีค่าแสงผ่านอยู่ที่ 54% และมีความสามารถในการลดความร้อนได้ถึง 52%


4

LiteTec R-Series

ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน

LiteTec R-Series เป็นฟิล์มติดรถยนต์ประเภทเคลือบโลหะ ทำให้มีความสามารถในการป้องกันความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ห้องโดยสารภายในรถยนต์มีความเย็นสบายแม้ในวันที่มีแสงแดดจัด และยังช่วยให้เครื่องปรับอากาศของรถยนต์ไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไปด้วย ซึ่งฟิล์มรุ่นนี้สามารถป้องกันรังสี UV ได้มากถึง 99% และยังการันตีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 5 ปี ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเปลี่ยนฟิล์มบ่อยๆ

5

XTREME-KOOL

ฟิล์มสีเข้มที่มากด้วยคุณสมบัติในการปกป้อง

สำหรับ XTREME-KOOL เป็นฟิล์มติดรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คุณสมบัติที่โดดเด่นของฟิล์มรุ่นนี้คือการผลิตขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ มีการผสมสีลงไปในเนื้อฟิล์มทำให้ฟิล์มมีสีเข้มกว่าปกติ ไม่ซีดจางแม้จะใช้งานเป็นเวลานาน รวมไปถึงเคลือบสารป้องกันรอยขีดข่วนเพื่อให้ตัวฟิล์มมีความทนทาน ไม่เกิดรอยขีดข่วนแท้จะเกิดการกระแทก นอกจากนี้ยังสามารถปกป้องห้องโดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถป้องกันรังสี UV และรังสีอินฟราเรด

6

PRO SHIELD Black Carbon

ฟิล์มติดรถยนต์ที่คุ้มค่า คุ้มราคา

PRO SHIELD Black Carbon เป็นฟิล์มติดรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่มีคุณภาพสูงด้วยเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกา เนื้อของฟิล์มรุ่นนี้ได้รับการเคลือบด้วยผง Nano Carbon เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อน และช่วยลดแสงที่จะเข้ามายังห้องโดยสาร รวมไปถึงช่วยป้องกันรังสีอินฟราเรดได้ถึง 74% อีกด้วย มีการเคลือบสารป้องกันการขีดข่วน จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างคือเป็นฟิล์มที่สัญญาณดิจิตอลผ่านได้สบาย ทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องการสื่อสาร

7

Hi-Kool Ceramic Midnight Black

มั่นใจได้ในมาตรฐานของ Hi-Kool

สำหรับ Hi-Kool เป็นแบรนด์ฟิล์มติดรถยนต์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ภายในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน โดย Hi-Kool Ceramic Midnight Black เป็นฟิล์มอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถป้องกันรังสีอินฟราเรดที่เป็นสาเหตุให้เกิดความร้อนภายในห้องโดยสารได้มากถึง 92% ทำให้ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในรถให้คงที่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยความทึบของฟิล์มที่เหมาะสม แต่สามารถมองจากภายในออกไปได้อย่างชัดเจน ไม่ปิดกั้นสัญญาณดิจิตอล

8

US GUARD US-BK80

ฟิล์มความเข้มสูงที่เหมาะสำหรับสภาพแดดในเมืองไทย

US GUARD US-BK80 เป็นฟิล์มติดรถยนต์ที่มีค่าความเข้มมากถึง 80% ทำให้เหมาะสำหรับการติดตั้งเพื่อสู้กับความร้อนแรงของแสงแดดในยามรถติดได้เป็นอย่างดี ด้วยความเข้มที่สูงทำให้สามารถป้องกันรังสี UV และรังสีอินฟราเรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลักษณะของเนื้อฟิล์มรุ่นนี้มีความพิเศษคือสามารถยืดหยุ่นได้ ทำให้การติดตั้งนั้นทำได้แนบสนิทกับกระจกได้มากกว่าฟิล์มรุ่นอื่นๆ

9

Lamina ANL05N

สร้างทัศนะวิสัยในการขับขี่ที่ดี แม้แต่เวลากลางคืน

สำหรับ Lamina ANL05N เป็นฟิล์มติดรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจจากแบรนด์ Lamina ซึ่งฟิล์มรุ่นนี้มีความสามารถในการลดความร้อนจากแสงแดดได้มากถึง 66% และยอมให้แสงผ่านเข้ามาได้เพียงแค่ 11% ทำให้การใช้งานรถยนต์ในตอนกลางวันทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเนื่องจากไม่ต้องสู้กับแสงที่จ้าจนเกินไป ส่วนการขับขี่ในเวลากลางคืนก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเนื่องจากเป็นฟิล์มที่มีความคมชัด ไม่ลดทัศนวิสัยในการขับขี่แม้จะมีความเข้มสูงก็ตาม

10

Hi-Kool Black Carbon

ฟิล์มคาร์บอนบริสุทธิ์ ป้องกันความร้อนได้ถึง 75%

Hi-Kool Black Carbon เป็นฟิล์มติดรถยนต์คุณภาพสูงอีกหนึ่งรุ่นที่ควรหามาใช้งาน เนื่องจากฟิล์มรุ่นนี้เป็นฟิล์มคาร์บอนบริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ทำให้เนื้อฟิล์มมีความเข้มข้นสูง สามารถป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้สูงถึง 75% ป้องกันรังสีอินฟราเรดได้ 80% ทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องความร้อนภายในห้องโดยสาร และยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยความเข้มของฟิล์มที่มองเข้ามาจากภายนอกได้ลำบาก แต่ภายในสามารถมองออกไปได้ชัดเจน ไม่ลดทอนทัศนะวิสัยในการขับขี่

วิธีการเลือกซื้อฟิล์มติดรถยนต์

  • เลือกจากงบประมาณ สำหรับฟิล์มติดรถยนต์ที่มีให้เลือกใช้งานในประเทศไทยนั้นมีช่วงราคาที่ค่อนข้างกว้าง มีราคาตั้งแต่ระดับพันต้นๆ ไปจนถึงหลายหมื่นบาท ซึ่งการเลือกติดฟิล์มนั้นควรเลือกระดับราคาที่เหมาะสม ฟิล์มติดรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงก็จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ส่วนฟิล์มติดรถยนต์ที่คุณภาพรองลงมาก็จะมีราคาที่ลดหลั่นกันไป การเลือกติดฟิล์มจึงควรมองในเรื่องความเหมาะสมของราคาด้วย 
  • เลือกจากประเภทของฟิล์ม สำหรับฟิล์มติดรถยนต์สามารถแบ่งประเภทได้อย่างง่ายๆ คือฟิล์มแบบสีเข้ม และฟิล์มแบบใส ซึ่งการเลือกติดตั้งฟิล์มแต่ละประเภทควรพิจารณาจากความเหมาะสม และความสะดวกในการใช้งานของเจ้าของรถเป็นสำคัญ ซึ่งฟิล์มแบบสีเข้มนั้นจะมีจุดเด่นในเรื่องของการป้องกันแสงแดด และให้ความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากจะมองเข้ามาภายในรถได้ยาก แต่สามารถมองออกไปจากภายในรถได้ชัดเจน ส่วนฟิล์มแบบใสนั้นเป็นฟิล์มที่สามารถมองเห็นภายในห้องโดยสารได้ชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโชว์ความสวยงามภายในห้องโดยสารนั่นเอง ซึ่งฟิล์มชนิดนี้ก็มีความสามารถในการป้องกันความร้อน และรังสีต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการเลือกติดฟิล์มแต่ละประเภทก็สามารถทำได้ตามความต้องการ และความเหมาะสมนั่นเอง 
  • เลือกจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง ถ้าเราไม่มีความรู้ในเรื่องของฟิล์มติดรถยนต์มากเพียงพอ หรือไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกติดฟิล์มแบรนด์ไหนดี วิธีการตัดสินใจในกรณีนี้คือเลือกติดฟิล์มจากแบรนด์ผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง เพราะอย่างน้อยก็จะมั่นใจได้ว่าฟิล์มที่นำมาติดรถยนต์นั้นเป็นฟิล์มที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน ซึ่งจะรวมไปถึงการรับประกันด้วย เพราะผู้ผลิตรายใหญ่มักจะมีเงื่อนไขการรับประกันที่ครอบคลุมในการใช้งานมากกว่าผู้ผลิตรายเล็กๆ นั่นเอง

คำถามที่พบบ่อยของฟิล์มติดรถยนต์

สำหรับความสามารถในการตัดแสงของฟิล์มติดรถยนต์นั้นคือความสามารถในการป้องกันแสง และรังสีต่างๆ ที่จะเข้ามาภายในห้องโดยสารนั่นเอง โดยรังสีจากดวงอาทิตย์ที่จะเข้ามาสร้างความร้อนนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 3ประเภทคือ รังสีอินฟราเรด (Infrared) / แสงที่ตามองเห็น (Visible Light) และรังสี UV (Ultraviolet Light) การเลือกฟิล์มต้องดูตัวเลขความสามารถในการป้องกันแสงเหล่านี้ด้วย โดยถ้าตัวเลขที่สูงก็จะมีความสามารถในการป้องกันความร้อนที่สูงมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ฟิล์มนิรภัยติดรถยนต์เป็นฟิล์มอีกหนึ่งประเภทที่เน้นไปในเรื่องความสามารถในปกป้อง และเพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุนั่นเอง ซึ่งฟิล์มประเภทนี้จะมีความพิเศษที่แตกต่างไปจากฟิล์มติดรถยนต์แบบปกติคือจะมีความหนามากกว่า โดยฟิล์มจะมีความหนาน้อยที่สุดอยู่ที่ 2 มิลลิเมตร มีการเพิ่มชั้นของวัสดุเข้าไปในเนื้อฟิล์มเพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการปกป้อง ทำให้ฟิล์มสามารถรับแรงกระแทกได้ดีกว่าฟิล์มแบบทั่วไป และด้วยปริมาณกาวที่มากขึ้นทำให้มีความเหนียวมากกว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุฟิล์มประเภทนี้จะเป็นตัวยึดเพื่อไม่ให้กระจกเกิดการแตกแบบกระจาย ส่วนจุดด้อยของฟิล์มนิรภัยคือไม่สามารถป้องกันความร้อนได้เท่ากับฟิล์มแบบปกติ ถ้าต้องการความสามารถในการป้องกันความร้อนก็จำเป็นที่จะต้องติดฟิล์มสองชั้นนั่นเอง

ฟิล์มติดรถยนต์แต่ละรุ่นนั้นจะมีระยะเวลาในการใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่ฟิล์มที่ได้มาตรฐานจะมีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปีขึ้นไปจึงจะเริ่มเสื่อมสภาพ ซึ่งการสังเกตว่าฟิล์มติดรถยนต์ของเรานั้นมีการเสื่อมสภาพสามารถสังเกตได้ดังนี้คือ เนื้อฟิล์มจะเริ่มมีความขุ่น ซึ่งความขุ่นนี้เหมือนกับการที่เราเช็ดกระจกไม่สะอาดนั่นเอง รวมไปถึงการยึดเกาะกับกระจกจะเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้สามารถมองเห็นได้ว่าฟิล์มนั้นมีการลอกออกจากกระจกนั่นเอง และสิ่งที่สังเกตได้ง่ายที่สุดคือตัวฟิล์มจะเป็นรอยขีดที่ขยายขนาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในรอยขีดนั้นจะไม่มีเนื้อฟิล์มเหลืออยู่ ดังนั้นเมื่อฟิล์มติดรถยนต์เริ่มเสื่อมสภาพควรรีบมองหาฟิล์มใหม่เพื่อนำมาติดทดแทนของเก่าให้เร็วที่สุด เนื่องจากการขับรถที่ฟิล์มเสื่อมสภาพจะลดประสิทธิภาพในการมองเห็น อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

แหล่งอ้างอิง

https://research.psru.ac.th

http://lib3.dss.go.th

Scroll to Top