สำหรับการตกแต่งทรงผมนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้คืออุปกรณ์ตัดผมประเภทต่างๆ นั่นเอง ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์ตัดผมที่ทุกคนต้องรู้จักเป็นอย่างดีนั่นคือ “ปัตตาเลี่ยน” เพราะว่าอุปกรณ์ชนิดนี้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย และเชื่อว่าแทบทุกคนต้องเคยถูกเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ตัดผมมาแล้วอย่างแน่นอน ลองมาดูกันว่าปัตตาเลี่ยนแบรนด์ไหนบ้างที่เหมาะสมสำหรับการหามาไว้ใช้ในปี 2022 ทั้งสำหรับมือใหม่ที่ต้องการตัดผมด้วยตัวเอง และช่างตัดผมมืออาชีพ
ลองมาดูกันว่า 10 อันดับปัตตาเลี่ยน แต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ
1
CKL Deluxe Chrome Pro
ปัตตาเลี่ยนราคาประหยัดพร้อมอุปกรณ์ครบชุดพร้อมใช้งาน
สำหรับ CKL Deluxe Chrome Pro นั้นเป็นปัตตาเลี่ยนแบบมีสายที่มีราคาไม่แพง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีอุปกรณ์ต่างๆ แถมมาให้พร้อมสำหรับการใช้งานโดยไม่ต้องหาซื้อเพิ่มอีก ตัวเครื่องทำมาจากพลาสติกคุณภาพสูงที่สามารถกันความร้อนได้ดี เคลือบด้วยสเตนเลสชุบโครเมียมเพื่อเพิ่มความทนทาน ส่วนมอเตอร์ที่ใช้ก็เป็นมอเตอร์ที่มีคุณภาพ
2
WAHL Pro Basic
ตัวเลือกที่ดีสำหรับช่างตัดผมมืออาชีพ
WAHL Pro Basic เป็นปัตตาเลี่ยนแบบมีสายที่ได้รับความนิยมมากพอสมควรในวงการช่างตัดผมมืออาชีพ เพราะว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง มาตรฐานประเทศสหรัฐอเมริกา มีความทนทาน ราคาเหมาะสม มอเตอร์ใช้แบบ Magnetic V3000 ทำรอบหมุนสูงสุดได้ 6,000 RPM ตัวเครื่องทำมาจากเหล็กชุบโครเมียมจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดสนิม อีกทั้งยังช่วยให้มีการระบายความร้อนที่ดี ใบมีดที่ให้มาเป็น Chrome-Plated Blade ขนาด 40 มิลลิเมตรที่สามารถตัดผมได้เรียบเนียน ไม่บาดผิว
3
Xiaomi Enchen Hummingbird Electric Hair Clipper
ปัตตาเลี่ยนยุคใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี
สำหรับ Xiaomi Enchen Hummingbird Electric Hair Clipper เป็นปัตตาเลี่ยนไฟฟ้าแบบไร้สายจาก Xiaomi ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัย ใช้งานง่าย แต่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี โดยที่เครื่องรุ่นนี้นั้นมีขนาดเล็ก แต่ทรงพลังด้วยกำลังไฟ 10 W แบตเตอรี่มีความจุ 1,500 mAh ทำงานได้ต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง และมอเตอร์ที่ทำรอบได้สูงสุดถึง 7,100 RPM แต่ทำให้เกิดเสียงดังเพียงแค่ 50 เดซิเบลเท่านั้น
4
XILDA KEN
ตัดผมได้อย่างสนุกด้วยความแรงมอเตอร์ที่ 6000V
XILDA KEN เป็นปัตตาเลี่ยนไฟฟ้าแบบมีสายประเภท Hi – speed ด้วยมอเตอร์โรตารีแมคเนติกที่มีความแรงมากถึง 6000V ด้วยความเร็วสูงสุด 6,000 RPM นั้นจะช่วยให้การตัดผมทำได้เร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตัวเครื่องรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 457 กรัม ออกแบบมาให้จับถนัดมือ ใบมีดที่ใช้เป็นแบบ Fast Fade Blade จากประเทศญี่ปุ่น สามารถตัดได้ในระยะ 0.5-1.8 มิลลิเมตร
5
Kemei KM-5017
ใช้งานง่าย ตัดได้เรียบเนียนด้วยใบมีดไทเทเนียม
สำหรับ Kemei KM-5017 เป็นปัตตาเลี่ยนไร้สายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากมีราคาที่ถูก แต่มีคุณภาพที่ดี ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดทำให้สามารถพกพาไปใช้งานยังสถานที่ต่างๆ ได้ง่าย การทำงานของมอเตอร์นั้นก็ค่อนข้างเงียบทำให้สามารถตัดผมเด็กได้ดี ใบมีดทำมาจากไทเทเนียมที่มีความคม และความทนทาน ช่วยให้การตัดผมทำได้เรียบเนียน เมื่อชาร์จไฟเต็มที่สามารถใช้งานได้ประมาณ 1 ชั่วโมง
6
Surker SK805
ล้ำสมัยด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ LCD
Surker SK805 จัดเป็นปัตตาเลี่ยนไร้สายอีกหนึ่งรุ่นที่มีความทันสมัยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปทรงที่ได้รับการออกแบบมากให้มีความหรูหรา โฉบเฉี่ยว รวมไปถึงการที่มีหน้าจอ LCD สำหรับแสดงสถานการณ์ใช้งานรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ ส่วนใบมีดทำจากสเตนเลสที่มีความคม และความทนทาน มอเตอร์ทำงานเงียบ เมื่อขาร์จไฟเต็มสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
7
Philips Avent HC1055/15
ปัตตาเลี่ยนที่ออกแบบมาสำหรับการตัดผมเด็กโดยเฉพาะ
Philips Avent HC1055/15 นั้นเป็นปัตตาเลี่ยนไร้สายจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกอย่าง Philips ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการตัดผมเด็ก ด้วยใบมีดเซรามิกที่ได้รับการออกแบบพิเศษเพื่อใช้กับเด็กโดยเฉพาะโดยมีความสั่นมากกว่าใบมีดปกติที่ใช้ในการตัดผมผู้ใหญ่ รวมไปถึงระบบตัดเล็มที่ช่วยให้เกิดความปลอดภัยในการตัดผมมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญมอเตอร์ทำงานได้เงียบมาก ไม่ทำให้เด็กเกิดความตกใจ ทำให้ตัดผมเด็กได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
8
LESASHA Easy Groom Hair LS1235
ปัตตาเลี่ยนที่มีความทนทาน ใช้งานได้ต่อเนื่อง
สำหรับ LESASHA Easy Groom Hair LS1235 นั้นเป็นปัตตาเลี่ยนแบบมีสายที่มีจุดเด่นในเรื่องการออกแบบตัวเครื่องให้มีความเพรียวบาง จับถนัดมือ และยังระบายความร้อนได้ดี ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานโดยที่ไม่มีความร้อนสะสมมากจนเกินไป ใบมีดผลิตจากโครเมียม ทำให้มีความคม และความทนทาน ไม่จำเป็นต้องลับบ่อยๆ อีกทั้งยังสามารถปรับระดับของใบมีดได้ถึง 3 ระดับ
9
REMINGTON PRO POWER TITANIUM HC7130
เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบ Pro Power
REMINGTON PRO POWER TITANIUM HC7130 เป็นปัตตาเลี่ยนไฟฟ้าที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเป็น 2 เท่าด้วยมอเตอร์ระบบ Pro Power นอกจากนั้นยังช่วยให้การตัดผมทำได้ง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยี Advanced Blade Geometry ตัวใบมีดเป็นแบบ AccuAngle เคลือบไทเทเนียมทำให้ตัดผมได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากตัวใบมีดมีความคมมากยิ่งขึ้น ตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ทั้งแบบมีสาย และไร้สาย
10
Braun Hair Clipper HC5050
ช่วยให้ตัดผมได้ง่ายขึ้นด้วยหวีเสริม 2 ขนาด
สำหรับ Braun Hair Clipper HC5050 เป็นปัตตาเลี่ยนแบบไร้สายที่ใช้ใบมีดซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถตัดผมได้อย่างอ่อนโยน ไม่สร้างความระคายเคืองให้กับผิวหนัง นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับหวีเสริม 2 ขนาดที่จะช่วยทำให้การตัดผมเป็นทรงต่างๆ นั้นทำได้ง่ายขึ้น ตัวเครื่องมีหน้าจอแสดงสถานะการทำงาน และปริมาณแบตเตอรี่แบบ LED โดยแบตเตอรี่เมื่อชาร์จเต็มที่จะทำงานต่อเนื่องได้นานประมาณ 40 นาที
วิธีการเลือกซื้อปัตตาเลี่ยน
- เลือกรูปแบบพลังงานที่เหมาะสม สำหรับปัตตาเลี่ยนในปัจจุบันนั้นมีรูปแบบของการนำพลังงานมาใช้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบใช้สายไฟเสียบปลั๊กตามปกติ แบบไร้สายที่มีแบตเตอรี่ในตัว แบบใส่ถ่าน และแบบผสมที่สามารถเสียบปลั๊ก หรือใช้แบตเตอรี่แบบไร้สายก็ได้ ซึ่งการเลือกใช้งานปัตตาเลี่ยนแต่ละรูปแบบควรเลือกจากรูปแบบการใช้งานจริงที่ต้องใช้เป็นประจำนั่นเอง ปัตตาเลี่ยนแบบเสียปลั๊กเหมาะกับการใช้งานหนัก ใช้งานอย่างต่อเนื่องในสถานที่ซึ่งสามารถเสียบปลั๊กได้อย่างสะดวก ปัตตาเลี่ยนแบบไร้สาย หรือแบบใส่ถ่านเหมาะสำหรับการใช้งานในบริเวณที่ไม่สามารถเสียบปลั๊กได้สะดวก หรือผู้ใช้ไม่อยากให้มีสายไฟมาเกะกะ ปัตตาเลี่ยนแบบผสมนั้นเรียกได้ว่าตอบโจทย์ได้มากที่สุดเพราะสามารถเสียบปลั๊กเพื่อใช้งานอย่างต่อเนื่อง หรือใช้แบตเตอรี่ในกรณีที่ไม่สามารถเสียบปลั๊กไฟเพื่อใช้งานได้นั่นเอง
- การออกแบบตัวเครื่องต้องเหมาะสม การใช้งานปัตตาเลี่ยนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้นรูปแบบของตัวเครื่องจะต้องมีความเหมาะมือ ใช้งานสะดวก หรือเรียกว่ามีรูปทรงที่จับง่าย มีขนาดที่เหมาะสม ไม่ลื่น และที่สำคัญตัวเครื่องนั้นต้องมีน้ำหนักเบา เพราะว่าการใช้ปัตตาเลี่ยนที่มีน้ำหนักมากเป็นระยะเวลานานสำหรับช่างตัดผมมืออาชีพอาจทำให้เกิดอาการเมื่อยล้า หรืออาการบาดเจ็บได้
- มอเตอร์ต้องมีความเร็วที่เหมาะสม หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ปัตตาเลี่ยนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพคือคุณภาพ และความรอบต่อนาทีของมอเตอร์นั่นเอง เพราะมอเตอร์ที่มีคุณภาพ และสามารถทำรอบต่อนาทีได้ในระดับที่สูงมากกว่า 6,000 รอบขึ้นไปนั้นจะช่วยให้การตัดผมทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถตัดผมที่มีความหนา และความชื้นได้อย่างรวดเร็ว โดยประเภทของมอเตอร์ที่สามารถทำรอบได้สูงถึง 10,000 รอบได้แก่ Rotary Motor / Magnetic Motor / Pivot Motor เป็นต้น
- มีใบมีดที่เหมาะสม นอกจากความเร็วของมอเตอร์แล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญสำหรับการจะตัดผมให้ออกมาได้คุณภาพคือประเภท และความคมของใบมีดนั่นเอง ซึ่งใบมีดแต่ละประเภทที่อยู่ในปัตตาเลี่ยนก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นใบมีดเซรามิกจะมีความสามารถในการทนความร้อนได้สูง ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ใบมีดสเตนเลสเป็นใบมีดที่มีความคมมากที่สุด ได้รับความนิยมมากที่สุด ใบมีไทเทเนียมเป็นใบมีดที่มีความแข็งแรง ตัดผมที่หนา หรือผมที่เปียกได้ง่าย ดังนั้นการเลือกใบมีดให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
- มอเตอร์ต้องมีระดับเสียงที่เหมาะสม หลายๆ คนคงคุ้นชินกับปัตตาเลี่ยนที่มีเสียงดังอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ในปัจจุบันปัตตาเลี่ยนได้มีการพัฒนาไปมาก ซึ่งการทำงานของปัตตาเลี่ยนรุ่นใหม่ๆ นั้นจะมีความเงียบ ไม่ก่อให้เกิดเสียงดัง โดยเฉพาะในการจัดผมเด็กปัตตาเลี่ยนที่มีเสียงเบาจะช่วยให้เด็กไม่ตกใจ ทำให้ตัดผมเด็กได้ง่ายขึ้น