เตรียมสีผมก่อนย้อมสีที่ชอบ เพื่อให้ได้สีที่ใช่และโดนใจตามเทรนด์สีผมสุดฮิต น้ำยากัดสีผมเป็นตัวช่วยที่ดีมากทีเดียวในการปรับความสว่างของสีผมก่อนย้อมสีจริง เพื่อให้สีย้อมติดง่ายและได้สีตรงตามที่ต้องการมากที่สุด โดยเฉพาะคนที่มีพื้นสีผมสีเข้มอย่างคนเอเชีย เมื่อเวลาย้อมสีจริงโดยไม่ผ่านการกัดสีผมนั้นทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่ได้สีผมที่ตรงใจ
ลองมาดูกันว่า 10 อันดับน้ำยากัดสีผมนั้นแต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ
1
NIGAO Bleaching Cream Maxx Light
เพิ่มความสว่าง ป้องกันผมเสียจากการฟอกซ้ำ ผมไม่แห้งกรอบ
NIGAO Bleaching Cream Maxx Light สูตรอ่อนโยนไม่ทำร้ายผม แม้ฟอกสีซ้ำ ทำให้ผมไม่แห้งกรอบและขาดง่าย เพิ่มความสว่างและรักษาความสว่างของสีผมอย่างสม่ำเสมอ โดยมี Mineral Oil ทำหน้าที่เข้าบำรุงผมไม่ให้แห้งเสีย POTASSIUM PERSULFATE, AMMONIUM PERSULFATE และ SODIUM METASILICATE ทำหน้าที่ฟอกสีผม และ SILICA ช่วยให้สีติดผมได้นานขึ้น
2
ผงฟอกสีผม Dcash
ล้างผมสีเข้ม เพิ่มความเด่นชัดให้เส้นผม ผมดูมีมิติ
ผงฟอกสีผม Dcash มีเนื้อละเอียดทำให้เกลี่ยง่าย เป็นสูตรเพิ่มความเด่นชัดให้กับผม ดูมีมิติขึ้น มี 2 เฉดสี สีทอง และ สีขาว ปรับสีผมให้อ่อนลงได้ทันทีหลังจากทำครั้งแรกหากใช้ครั้งแรกแล้วยังดูผมสีเข้มอยู่ สามารถกัดสีซ้ำได้ 2-3 ครั้ง สีผมก็จะดูสว่างขึ้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพื้นสีผมของแต่ละคนด้วย ระดับความสว่างเพิ่มขึ้นได้ 7-9 หากผสมผงฟอกสีดีแคช 1 ซอง กับ ไฮเปอร์ 12% 1 ขวด จะได้ปริมาณ 75 มล.
3
Lolane Pixxel Hair Bleaching Powder
กัดสีผมได้ถึง 3 ระดับ ลดเม็ดสีบนเส้นผม โลแลน พิกเซล แฮร์บลิชชิ่งพาวเดอร์
Lolane Pixxel Hair Bleaching Powder ขนาด 15 กรัม มี 3 สูตร Normal Lift ความสว่างระดับ 8 สูตร Extreme Lift ความสว่างระดับ 9+ และ สูตร Gentle Lift ความสว่างระดับ 11 ช่วยลดเม็ดสีบนเส้นผม ซึ่งจะได้สีบลอนด์อ่อนมากๆ ผสมผงกัดสี 1 ซอง ต่อ ออกซี่มิลค์โลชั่น 1 ขวด จากนั้นป้ายลงบนผมเว้นโคน 1 ซม. เมื่อได้สีที่ต้องการ ให้ล้างออกด้วยน้ำเปล่าแล้วสระผมด้วยแชมพู และล้างออกด้วยน้ำเปล่าอีกครั้งหนึ่ง
4
FSanjing
สีผมสว่างไว ไร้แอมโมเนีย กลิ่นไม่ฉุน
Sanjing ยากัดสีผมจากญี่ปุ่น กัดสีผมสว่างไวใน 30 นาที ไม่ทำร้ายผมด้วยสูตรปราศจากแอมโมเนีย ปรับสีผมสว่างระดับ 5-10 จุดเด่น คือ ผงกัดสีมีโมเลกุลเล็กทำให้ซึมเข้าสู่เส้นผมได้เร็ว ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามพื้นสีผมรวมถึงความหนาของเส้นผม มีส่วนผสมของ Mineral Oil ช่วยให้ผมเงางาม หากผู้ใช้ผมสั้นแนะนำให้ใช้ 1 กล่อง หากผู้ใช้มีผมยาวหรือผมหนาแนะนำให้ใช้ 2-3 กล่อง
5
Berina hair bleaching powder
สีผมทอง สว่างชัดเจน ใช้ง่าย
Berina hair bleaching powder ผงกัดสีจากเบอริน่า ใช้งานง่าย ความสามารถในการกัดสีผมเป็นสีเหลืองหรือสีทองสว่างที่ระดับ 3-4 ความเข้มข้นของดีเวลลอปเปอร์ 12 % ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย และสีติดได้นาน
6
CRUSET Hair Bleaching Cream
ฟอกสีสวย พร้อมบำรุงเส้นผมให้นุ่มชุ่มชื้น
CRUSET Hair Bleaching Cream น้ำยากัดสีผมแบบครีม กัดสีผมให้สีทองสว่าง พร้อมเพิ่มตัวบำรุงเส้นผมด้วยวิตามิน E และ เพิ่มความเงาให้กับผมด้วยน้ำมันมะกอก ดีเวลลอปเปอร์อยู่ที่ 12 % ส่วนผสมน้ำยากัดต่อดีเวลลอปเปอร์อยู่ที่ 1:1 ใช้ระยะเวลากัด 10-40 นาที เมื่อได้สีตามที่ต้องการแล้วให้ล้างออกด้วยน้ำเปล่า สระด้วยแชมพู และตามด้วยครีมหมักผม
7
Schwarzkopf Igora
สีติดทน ไฮไลต์สวยโดดเด่น
Schwarzkopf Igora น้ำยากัดสีผม ประกอบด้วยผงกัด ขนาด 15 กรัม และดีเวลลอปเปอร์อยู่ที่ระดับ 9% ขนาด 30 ml. กัดสีผมได้ดีและทำให้ติดสีย้อมดีขึ้น และสามารถนำไปทำเป็นช่อผมไฮไลต์ได้ ลงน้ำยากัดสีลงบนเส้นผม โดยเว้นจากโคน 1 ซม. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหนังศีรษะ ทั้งนี้ ให้กลับมาเติมโคนหลังจากการลงน้ำยากัดทั่วศีรษะแล้ว
8
DCASH PROFESSIONAL MASTER
สีผมโดดเด่น ไฮไลท์ชัด เพิ่มความเงางามให้เส้นผม
DCASH PROFESSIONAL MASTER มีผงกัดสี ขนาด 15 กรัม และ MILDROXY 12% ขนาด 60 ml.ระดับความสว่าง 7-9 ผสมผงกัดสีและดีเวลลอปเปอร์ แล้วทิ้งไว้ 1-2 นาที ก่อนนำไปกัดสีผม เมื่อได้สีที่ต้องการแล้ว ให้ล้างออกด้วยแชมพู และบำรุงด้วยทรีทเม้น ประมาณ 10 นาที แล้วจึงล้างออก
9
DIPSO professional focus
เนื้อละเอียด ล้างสีเดิม ปรับความสว่าง ดูมีมิติ
DIPSO professional focus มี 2 เฉด ให้เลือก คือ สีทอง และ สีขาวมุก ในเซ็ตมีผงกัด ขนาด 15 กรัม และ ดีเวลลอปเปอร์ 12% ขนาด 60 ml. มีเนื้อละเอียด ปรับสีได้ในระดับ 7-9 นอกจากนี้ ยังช่วยล้างสีผมเดิม หรือทำไฮไลท์ให้ผมดูมีมิติมากขึ้น ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ และห้ามใช้ขณะที่มีหนังศีรษะลอก
10
ผงฟอกผม power
สีผมโดดเด่น ไม่ระคายเคืองหนังศีรษะ กลิ่นไม่ฉุน ไม่ติดสีเหลือง
ผงฟอกผม power ขนาด 500 กรัม ใช้ได้ 3-5 รอบขึ้นอยู่กับความสิ้นยาวและความหนาบางของผม มีคุณสมบัติฟอกผมไม่ติดสีเหลือง เหมาะกับผมที่ต้องการย้อมสีอ่อน หรือสีพาสเทล มีกลิ่นไม่ฉุน ไม่ระคายเคืองหนังศีรษะ หากมีพื้นสีผมดำ และเส้นผมแข็งแรง ใช้ไฮโดรเจน 12% หากต้องการสีผมสว่าง ใช้ไฮโดรเจน 9% หากต้องการสีขาวนวล หรือเส้นผมบอบบาง ใช้ไฮโดรเจน 6%
วิธีการเลือกซื้อน้ำยากัดสีผม
- เลือกความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
- ความเข้มข้นเป็นตัวกำหนดความอ่อนของสีผม และยิ่งเข้มข้นมากยิ่งระคายเคือง และผมเสียมาก
- ความเข้มข้น 10 Vol 3% ความเข้มข้นน้อยสุด หากพื้นสีผมเป็นสีธรรมชาติ สามารถทำผมให้อ่อนได้ 1-2 ระดับ
- ความเข้มข้น 20 Vol 6% เป็นความเข้มข้นที่นิยมใช้กันมากที่สุด เหมาะผมเส้นเล็ก
- ปรับระดับสีผมได้ 2-3 ระดับ ให้เป็นสีบลอนด์ได้
- ความเข้มข้น 30 Vol 9% มีโอกาสระคายเคืองสูงและผมขาดหากทิ้งไว้นานเกินไป หากต้องการผมสีบลอนด์อ่อนและไม่ต้องการฟอกผมหลายครั้ง สามารถใช้ความเข้มข้นระดับนี้ได้
- ความเข้มข้นที่สูงกว่า 40 vol 12%
- ถือว่าเป็นความเข้มข้นสูงสุด หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหนัง ทำให้หนังศีรษะระคายเคืองง่าย แนะนำเลยว่าไม่ควรฟอกสีผมด้วยความเข้มข้นระดับนี้แต่ควรไปที่ร้านเสริมสวยที่มีความชำนาญฟอกสีให้
- เลือกตามเฉดสีที่ต้องการย้อม
- สีทองแดง สำหรับผู้ที่ต้องการทำผมสีบลอนด์ส้ม แดง มะฮอกกะนี และคอปเปอร์
- สีเหลือง สำหรับผู้ที่ต้องการทำผมสีเขียว บลอนด์ทอง บลอนด์เขียว เขียวอมเทา สีม่วงเข้ม
- สีเหลืองอ่อนหรือสีขาว สำหรับผู้ที่ต้องการทำผมสีแนวพาสเทลทุกสี
- เลือกน้ำยากัดสีผมตามการใช้งาน
- หากต้องการให้สีผมจางลง แนะนำให้ใช้น้ำยากัดสีผมแบบครีม
- หากต้องการโทนสีสว่าง แนะนำให้ใช้น้ำยากัดสีผมแบบผง
คำถามที่พบบ่อยของน้ำยากัดสีผม
แหล่งอ้างอิง
http://oldweb.pharm.su.ac.th