น้ำมันหอมระเหย

10 สุดยอดน้ำมันหอมระเหย ยี่ห้อไหนดี ที่คุณต้องมีประจำปี 2022

กลิ่นหอมนั้นคือกลิ่นที่สามารถช่วยทำเกิดการผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ซึ่งการทำให้เกิดกลิ่นหอมนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมจากดอกไม้ หรือกลิ่นหอมสังเคราะห์ประเภทต่างๆ แต่ที่นิยมมากในปัจจุบันคือกลิ่นหอมสังเคราะห์จากน้ำมันหอมระเหยนั่นเอง เนื่องจากใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก มีให้เลือกหลายรูปแบบตามความสะดวกของผู้ใช้งาน มาลองดูกันว่าในปี 2022 มีน้ำมันหอมระเหยแบรนด์ไหนบ้างที่ควรหามาไว้ใช้เพื่อการผ่อนคลาย

ลองมาดูกันว่า 10 อันดับน้ำมันหอมระเหย แต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ

1

KARMAKAMET Aromatherapy Pure Essential Oil

ผสมผสานกลิ่นหอมจากดอกไม้ธรรมชาติได้อย่างลงตัว

KARMAKAMET นั้นเป็นแบรนด์เครื่องหอมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่ง KARMAKAMET Aromatherapy Pure Essential Oil นั้นเป็นน้ำมันหอมระเหยที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัวของแบรนด์นี้ ส่วนผสมนั้นเป็นการรวบรวมกลิ่นหอมจากธรรมชาติ 3 ชนิดเข้าไว้ด้วยกัน นั่นคือกลิ่นหอมจากสะระแหน่ ลาเวนเดอร์ และดอกเจอราเนียม เมื่อได้กลิ่นจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลของร่างกายอีกด้วย


2

Sabai Arom Lemongrass Essential Oil Single

สร้างความรู้สึกผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมจากสมุนไพร

สำหรับ Sabai Arom Lemongrass Essential Oil Single เป็นน้ำมันหอมระเหยกลิ่นตะไคร้ ที่มีความบริสุทธิ์ถึง 100% มีความหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสมุนไพร เมื่อได้กลิ่นของน้ำมันตัวนี้จะช่วยให้เกิดความรู้ผ่อนคลาย ช่วยดูแลสุขภาพเนื่องจากมีส่วนช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย ถ้าใช้ร่วมกับเครื่องพ่นแบบไอน้ำยังมีคุณสมบัติช่วยไล่ยุงไม่ให้มารบกวนได้อีกด้วย


3

PANPURI Scarlet Rouge Awakening Essential Oil

ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม

PANPURI Scarlet Rouge Awakening Essential Oil เป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งไม่เหมือนใคร น้ำมันตัวนี้สกัดมาจากกุหลาบ และดอกเจอราเนียม นำมาผสมกันได้อย่างลงตัว ให้กลิ่นหอมละมุม สร้างความผ่อนคลาย ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศได้เป็นอย่างดี สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการหยดลงบริเวณข้อพับ ใส่เตาสำหรับน้ำมันหอมระเหย หรือผสมลงในอ่างอาบน้ำ


4

Natural Supplies Chamomile Essential oil

น้ำมันหอมระเหยที่จะช่วยให้การนอนหลับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับ Natural Supplies Chamomile Essential oil เป็นน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอก Chamomile ซึ่งกลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้มีคุณสมบัติที่ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ปรับสมดุลของอารมณ์ ถ้าใช้ในช่วงก่อนนอนจะช่วยให้การนอนหลับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หลับได้ลึกกว่าปกติ ทำให้ร่างกายมีการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งน้ำมันตัวนี้นอกจากจะใช้สร้างความหอมแล้วนั้น ยังสามารถผสมในเครื่องดื่มเพื่อช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหารได้อีกด้วย

5

Erb Evergreen Voyage Essential Oil

ช่วยสร้างความสดชื่น ตื่นตัว และปรับระบบทางเดินหายใจ

Erb Evergreen Voyage Essential Oil เป็นน้ำมันหอมระเหยกลิ่นสะระแหน่ ผสมกับยูคาลิปตัส ซึ่งมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยกลิ่นหอมของสะระแหน่จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีความตื่นตัว เสริมด้วยกลิ่นหอมของยูคาลิปตัสที่จะช่วยปรับระบบการหายใจให้มีความสมดุล ทำให้หายใจได้โล่งขึ้น น้ำมันตัวนี้สามารถใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการหยดลงบนเตา ผสมในอ่างอาบน้ำ หรือผสมกับน้ำมันนวดตัว

6

Amouriq Lavender France Essential Oil

ให้ความหมอประทับใจสไตล์ฝรั่งเศส

สำหรับ Amouriq Lavender France Essential Oil เป็นน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกลาเวนเดอร์ธรรมชาติ สายพันธุ์ True Lavender จากประเทศฝรั่งเศส โดยกระบวนการสกัดก็ใช้กรรมวิธีที่ไม่ใช้สารเคมี เรียกได้ว่าเป็นผลผลิตจากธรรมชาติบริสุทธิ์ 100% ที่ไม่มีสารเคมีเจือปนอย่างแน่นอน น้ำมันตัวนี้จึงให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย นอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7

DONNA CHANG Almond Vanilla Aromatic Oil

น้ำมันหอมระเหยกลิ่นหอมหวานละมุนชวนเคลิบเคลิ้ม

DONNA CHANG Almond Vanilla Aromatic Oil เป็นน้ำมันหอมระเหยกลิ่นอัลมอนด์ผสมกับกลิ่นวานิลลา ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาความเครียด สร้างความผ่อนคลายด้วยกลิ่นวานิลลา ส่วนกลิ่นอัลมอนด์จะช่วยให้จิตใจสงบ มีความแจ่มใส ถ้าใช้ก่อนนอนก็จะช่วยให้หลับสบายมากยิ่งขึ้น วิธีใช้เพียงแค่หยดลงไปในน้ำ 4 – 5 หยดแล้วนำไปใช้งานร่วมกับเตาน้ำมันหอมระเหย โดยกลิ่นจะอยู่ได้นานถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว

8

Bath & Bloom PEPPERMINT ESSENTIAL OIL

ความหอมของ Peppermint ที่ช่วยดูแลสุขภาพ

สำหรับ Bath & Bloom PEPPERMINT ESSENTIAL OIL เป็นน้ำมันหอมระเหยกลิ่น Peppermint ซึ่งเป็นกลิ่นที่หลายๆ คนชื่นชอบ เนื่องจากเป็นกลิ่นหอมที่ละมุนละไม ช่วยสร้างความสดชื่น อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายมีพลังงานอีกด้วย ซึ่งนอกจากความหอมแล้วนั้น กลิ่น Peppermint ยังช่วยดูแลสุขภาพ เนื่องจากจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดอาการปวดหัว ถ้าใช้นวดตัวก็จะบรรเทาความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี

9

LALIL Purity Essential Oil Blend

ให้ความหอมสดชื่นจากธรรมชาติ 100%

สำหรับ LALIL Purity Essential Oil Blend เป็นน้ำมันหอมระเหยอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจ เนื่องจากน้ำมันตัวนี้ใช้กระบวนการสกัดแบบปลอดสารเคมี ไม่มีการผสมแอลกอฮอล์ เรียกได้ว่าเป็นกลิ่นหอมจากธรรมชาติ 100% โดยกลิ่นหลักนั้นจะเป็นกลิ่นหอมของ Peppermint ผสมผสานกับกลิ่นหอมของดอกคาโมมายล์ และกลิ่นที่เย็นสดชื่นของเมนทอล มีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้า สร้างความสดชื่น เพิ่มสมาธิ ลดความเครียด และความวิตกกังวลได้เป็นอย่างดี

10

NOW® Foods Essential Orange Oil Organic

น้ำมันหอมระเหยสกัดเย็นพร้อมความหอมที่นุ่มนวลจากส้ม

NOW® Foods Essential Orange Oil Organic เป็นน้ำมันหอมระเหยกลิ่นส้มที่สกัดด้วยวิธีการสกัดเย็น 100% ไม่มีการผสมสารเคมี และแอลกอฮอล์ เรียกได้ว่าเป็นน้ำมันอีกหนึ่งตัวที่เป็นสูตรธรรมชาติ มีความปลอดภัย ส่วนกลิ่นหอมของส้มนั้นจะช่วยให้เกิดความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ลดความเครียด อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

วิธีการเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหย

  • เลือกจากกลิ่นที่ชอบ สำหรับการเลือกน้ำมันหอมระเหยเพื่อนำมาใช้งานนั้น สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง และเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือกลิ่นนั่นเอง การเลือกน้ำมันหอมระเหยควรเลือกกลิ่นที่ชอบเท่านั้น เพราะการได้สูดดมกลิ่นหอมที่ชอบจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายมากที่สุดนั่นเอง ถึงแม้ว่าน้ำมันบางตัวจะมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมขนาดไหน แต่ถ้าเป็นกลิ่นที่เราไม่ชอบก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหามาใช้งาน เพราะการสูดดมกลิ่นที่ไม่ชอบนั้นไม่ได้ส่งผลดีใดๆ ต่อร่างกายเลย ดังนั้นการเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยควรเลือกใช้เฉพาะกลิ่นที่ชอบเท่านั้น 
  • เลือกจากคุณสมบัติของกลิ่น กลิ่นหอมที่แตกต่างกันในน้ำมันหอมระเหยนั้นส่งผลให้น้ำมันแต่ละตัวมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคุณสมบัติต่างๆ ของน้ำมันหอมระเหยที่นิยมใช้กันนั้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการกลิ่นที่ช่วยให้การนอนหลับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ควรเลือกน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกลาเวนเดอร์ / กลิ่นดอกมะลิ หรือกลิ่นวานิลลา ส่วนกลิ่นที่มีคุณสมบัติในการช่วยผ่อนคลายความเครียด หรือความวิตกกังวล ได้แก่ กลิ่นดอกลาเวนเดอร์ / กลิ่นสะระแหน่ / กลิ่นดอกกุหลาบ และกลิ่นดอกกระดังงา แต่ถ้าต้องการสร้างบรรยากาศที่ชวนหลงใหล หรือสร้างความประทับใจให้กับเพศตรงข้ามควรใช้น้ำมันกลิ่นดอกเจอราเนียม หรือกลิ่นดอกกุหลาบนั่นเอง 
  • เลือกจากคุณภาพ และความปลอดภัย การเลือกน้ำมันหอมระเหยเพื่อมาใช้งานในรูปแบบต่างๆ นั้น ควรเลือกน้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพ และมีความปลอดภัย เพราะว่าเมื่อใช้งานแบบสูดดมนั้นเราจะต้องสูดดมกลิ่นเหล่านั้นเป็นเวลานาน รวมไปถึงการนำมาใช้นวดตัว หรือผสมน้ำอาบก็จะทำให้น้ำมันเหล่านั้นสัมผัสกับร่างกายโดยตรง ดังนั้นการเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยควรเลือกประเภทที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ รวมไปถึงไม่มีการใส่สารเคมีต่างๆ ผสมเข้าไปเพื่อเพิ่มกลิ่นนั่นเอง เพราะเมื่อเป็นสารสกัดจากธรรมชาติแท้ 100% จะช่วยให้มีความปลอดภัยในการใช้งาน ลดโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี 
  • เลือกจากรูปแบบการใช้งาน น้ำมันหอมระเหยนั้นสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานบนเตาน้ำมันหอมระเหย การผสมน้ำเพื่อฉีดรอบห้องๆ การผสมน้ำอาบ หรือการผสมน้ำมันประเภทอื่นๆ เพื่อนำมานวดตัว ซึ่งวิธีการใช้เหล่านี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล ดังนั้นการเลือกใช้ควรเลือกน้ำมันหอมระเหยให้ตรงกับรูปแบบการใช้งานมากที่สุด เพื่อที่จะได้ใช้น้ำมันหอมระเหยอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง แต่ถ้ามีการใช้งานที่หลากหลายประเภทสลับกันไป ก็สามารถเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยชนิดที่ใช้งานได้หลากหลายประเภทเพื่อความสะดวก 
  • เลือกจากภาชนะบรรจุ อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้น้ำมันหอมระเหยยังคงประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานได้ยาวนานโดยไม่เสื่อมประสิทธิภาพนั่นคือภาชนะบรรจุนั่นเอง ภาชนะบรรจุน้ำมันหอมระเหยต้องมีสีเข้มเพื่อไม่ให้แสงแดดส่องมาโดนตัวน้ำมันโดยตรง เพราะแสงแดดจะทำให้อายุการใช้งานของน้ำมันหอมระเหยนั้นสั้นลง รวมไปถึงการปิดผนึกต้องทำอย่างเรียบร้อย แน่นหนา เพื่อกันไม่ให้กลิ่นลอยออกมาโดยไม่จำเป็น และป้องกันการหกของน้ำมัน และควรเก็บน้ำมันหอมระเหยในที่ซึ่งมีอุณหภูมิเหมาะสม ไม่ให้โดนแดด

คำถามที่พบบ่อยของน้ำมันหอมระเหย

สำหรับการผสมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ เข้าด้วยกันนั้นมีประโยชน์หลายประการ เนื่องจากการผสมกันนั้นจะทำให้ได้น้ำมันที่มีกลิ่นหมอไม่เหมือนใคร รวมไปถึงยังได้รับคุณสมบัติต่างๆ ของน้ำมันแต่ละกลิ่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่การผสมนั้นต้องผสมเมื่อต้องการใช้งานเท่านั้น โดยทำการผสมภายนอกขวดในภาชนะที่เตรียมไว้

น้ำมันหอมระเหยที่ได้มาตรฐานนั้นจะมีการระบุวันที่ผลิต และวันหมดอายุไว้อย่างชัดเจน โดยเมื่อน้ำมันหอมระเหยเมื่อหมดอายุนั้นสีของน้ำมันจะเปลี่ยนไป จะมีตะกอนตกที่ก้นขวด ส่วนกลิ่นที่เคยหอม จะเปลี่ยนเป็นกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ถ้าน้ำมันหอมระเหยที่ใช้งานอยู่มีลักษณะตามที่กล่าวมาให้รีบทิ้งทันที

ข้อควรระวังที่สำคัญที่สุดของการใช้น้ำมันหอมระเหยคือต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ และต้องเจือจางกับน้ำทุกครั้งก่อนการใช้งาน เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยนั้นมีความเข้มข้นสูงมาก ถ้าไม่เจือจางก่อนใช้งานอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานกับเตาน้ำมันหอมระเหย หรือการใช้นวดตัว และที่สำคัญเมื่อใช้งานน้ำมันหอมระเหยแล้วร่างกายมีอาการผิดปกติ หรือมีอาการแพ้ในรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้น ควรหยุดใช้ และรีบไปพบแพทย์ทันที โดยเอาขวดน้ำมันที่ทำให้เกิดอาการแพ้ไปด้วย

แหล่งอ้างอิง

https://research.psru.ac.th

http://lib3.dss.go.th

Scroll to Top