ตู้เย็นเล็ก

10 สุดยอดตู้เย็นเล็ก ยี่ห้อไหนดี ที่คุณต้องมีประจำปี 2022

ตู้เย็นนั้นจัดว่าเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหนึ่งประเภทที่เรียกได้ว่ามีใช้งานแทบทุกบ้าน เพราะอุปกรณ์ชนิดนี้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บวัตถุดิบในการทำอาหารให้มีความสดใหม่ แช่น้ำดื่มให้มีความเย็น รวมถึงประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย แต่ถ้าห้องพักมีขนาดเล็กแล้วจำเป็นต้องใช้ตู้เย็น การเลือกตู้เย็นเล็กให้เพื่อนำมาใช้งานถือว่าเป็นทางออกที่เหมาะสมมาก

ลองมาดูกันว่าตู้เย็นเล็กแบรนด์ไหนควรมีไว้ใช้งานสำหรับปี 2022

1

Haier HR-907CQ

ให้ความเย็นอย่างเต็มที่ด้วยระบบ Direct Cooling

สำหรับ Haier HR-907CQ นั้นเป็นตู้เย็นเล็ก 1 ประตูที่เรียกว่าตู้เย็นมินิบาร์ ซึ่งมีความจุ 2.1 คิว มีขนาด 47.5×55.5×51.0 เซนติเมตร น้ำหนัก 20 กิโลกรัม ด้วยขนาดกะทัดรัดทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานห้องขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายสะดวก จัดวางได้ง่าย ระบบทำความเย็นใช้แบบ Direct Cooling ที่สามารถให้ความเย็นได้อย่างเต็มที่ แต่ประหยัดไฟในระดับ 5 เรียกได้ว่าเป็นตู้เย็นอีกหนึ่งรุ่นที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก


2

Mitsubishi MR-14N

คุณภาพไว้ใจได้ด้วยมาตรฐาน Mitsubishi

Mitsubishi MR-14N เป็นตู้เย็นเล็กแบบ 1 ประตูที่มีความจุ 4.9 คิว ซึ่งตู้เย็นรุ่นนี้สามารถมั่นใจในเรื่องมาตรฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมอเตอร์ หรือระบบทำความเย็นเพราะว่าเป็นมาตรฐานการผลิตของแบรนด์ Mitsubishi ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ภายในตัวตู้เย็นสามารถเก็บของได้หลากหลาย รวมไปถึงมีชั้นวางของที่ปรับได้หลากหลายรูปแบบตามความเหมาะสมในการจัดเก็บของ ใส่ของได้มากถึง 100 กิโลกรัม และยังเป็นตู้เย็นที่ช่วยประหยัดไฟได้ดีอีกหนึ่งรุ่น


3

Alco AN-FR468

ไม่ส่งเสียงรบกวนแม้จะต้องทำงานหนัก

สำหรับ Alco AN-FR468 นั้นเป็นตู้เย็นเล็กแบบมินิบาร์ มีขนาดความจุ 1.7 คิว มีขนาด 47.4 x 49.6 x 44.7 เซนติเมตร น้ำหนัก 15 กิโลกรัม เรียกได้ว่าเป็นตู้เย็นที่มีน้ำหนักเบามากอีกหนึ่งรุ่น เคลื่อนย้ายได้ง่าย สำหรับการทำงานนั้นไม่ก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนแม้ในขณะที่เครื่องทำงานหนัก มีช่องแช่แข็งแยกต่างหาก คอมเพรสเซอร์เป็นแบบไร้สาร CFC ทำให้ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ หรือความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม


4

SONAR RD-H95N

ตู้เย็นมินิบาร์ขนาด 95 ลิตรที่เก็บของได้เยอะมาก

SONAR RD-H95N เป็นตู้เย็นเล็กแบบมินิบาร์ 2 ประตู มีขนาด 45.5 x 54 x 83.2 เซนติเมตร น้ำหนัก 28 กิโลกรัม เรียกได้ว่าเป็นตู้เย็นมินิบาร์ที่มีขนาดใหญ่นั่นเอง ขนาดความจุ 3.4 คิว เก็บของได้ 95 ลิตร ซึ่งตู้เย็นรุ่นนี้มีจุดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ซึ่งทางผู้ผลิตการันตีว่าประหยัดมากกว่าแบรนด์อื่นๆ อย่างแน่นอน ควบคุมอุณหภูมิด้วยระบบ Thermostat ทำให้ตู้เย็นมีอุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดเวลา คอมเพรสเซอร์เป็นแบบไร้สาร CFC ที่ไม่ก่อให้เกิดเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม

5

TOSHIBA GR-A906ZQNW 3.0

ออกแบบอย่างลงตัวเหมาะสำหรับห้องทุกประเภท

สำหรับ TOSHIBA GR-A906ZQNW 3.0 นั้นเป็นตู้เย็นเล็กแบบมินิบาร์ 1 ประตู ความจุ 3 คิว ขนาด 47.5 x 50.0 x 75.6 เซนติเมตร ความจุ 3คิว ซึ่งตู้เย็นรุ่นนี้ได้รับการออกแบบอย่างเรียบง่าย ลงตัว ทำให้เหมาะสมกับการตกแต่งห้องหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมีระบบไฟส่องภายในตู้เย็นทำให้มองเห็นของต่างๆ ในเวลากลางคืน มีระบบละลายน้ำแข็ง พร้อมถาดรองน้ำทิ้ง นอกจากนี้ยังมั่นใจในคุณภาพด้วยการรับประกันคอมเพรสเซอร์ถึง 5 ปี

6

Sharp Door Direct Cool SJ-G15S-SL

รูปลักษณ์เรียบง่ายคุ้มค่าทุกการใช้งาน

สำหรับ Sharp Door Direct Cool SJ-G15S-SL เป็นตู้เย็นเล็กแบบ 1 ประตู มีความจุ 5.2 คิว ขนาด 53.5 x 105 x 56.0 เซนติเมตร น้ำหนัก 26 กิโลกรัม จุของได้สูงถึง 147 ลิตร ตู้เย็นรุ่นนี้ใช้ระบบ AIR FLOW SYSTEM ที่ช่วยกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง และมีระบบ NO-FROST ที่ไม่ทำให้เกิดน้ำแข็งเกาะ ส่วนชั้นวางของภายในตู้เย็นสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบตามแต่ความต้องการ ตัวเครื่องมีการรับประกัน 1 ปี รับประกันคอมเพรสเซอร์ถึง 10 ปี

7

Electrolux EUM0500SB

ตอบสนองทุกความต้องการในเรื่องความหิว

Electrolux EUM0500SB เป็นตู้เย็นเล็กแบบมินิบาร์ ความจุ 1.6 คิว ขนาด 49.6 × 47.4 x 44.7 เซนติเมตร ซึ่งถูกออกแบบภายใต้แนวคิดตอบสนองทุกความต้องการในเรื่องความหิว ทำให้ตู้เย็นรุ่นนี้เคลื่อนย้ายได้ง่าย ติดตั้งได้ทุกพื้นที่ เพื่อที่เวลาต้องการอาหาร หรือน้ำดื่มในพื้นที่ต่างๆ ของบ้านก็จะมีตู้เย็นรุ่นนี้วางอยู่เพื่อตอบสนองความหิวนั่นเอง ส่วนการทำความเย็นใช้ระบบ Direct Cool พร้อมระบบละลายน้ำแข็งกึ่งอัตโนมัติ

8

HITACHI R-20NP

มั่นใจในเรื่องความสะอาดด้วยการเคลือบสารกันเชื้อรา

ตู้เย็นขนาดเล็กแบบมินิบาร์ HITACHI R-20NP นั้นมีขนาดความจุ 1.7 คิว ตัวเครื่องมีขนาด 45 x 50 x 50 เซนติเมตร น้ำหนัก 17 กิโลกรัม ขนาดความจุสิ่งของ 49 ลิตร ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการแช่อาหาร น้ำดื่ม หรือใช้แช่เครื่องสำอาง นอกจากนี้ยังสามารถมั่นใจได้ในเรื่องความสะอาดเพราะว่าบริเวณยางขอบประตูของตู้เย็นนั้นได้รับการเคลือบสารพิเศษเพื่อป้องกันเชื้อรา มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ตัวเครื่องมีการรับประกัน 1 ปี รับประกันคอมเพรสเซอร์ถึง 5 ปี

9

BEKO RS9020P

ไร้รอยนิ้วมือด้วยเทคโนโลยี Inox

สำหรับ BEKO RS9020P เป็นตู้เย็นเล็กแบบมินิบาร์ที่มีความจุ 3.1 คิว ขนาดของตู้เย็นอยู่ที่ 48 × 85 x52 เซนติเมตร ตู้เย็นรุ่นนี้ถูกออกแบบมาด้วยเทคโนโลยี Inox ซึ่งจะไม่ทิ้งรอยนิ้วมือไว้บริเวณหน้าบานประตูเมื่อมีการสัมผัส ทำความเย็นด้วยระบบ Direct Cool ที่สร้างความเย็นได้อย่างสม่ำเสมอ ส่วนชั้นวางของภายในตู้เย็นมีความทนทานด้วยวัสดุ Temper Glass

10

Haier HM1271L

โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยฝาตู้แบบใส

Haier HM1271L เป็นตู้เย็นเล็กแบบมินิบาร์ 1 ประตู ขนาด 48.5 x 40 x 40 เซนติเมตร น้ำหนัก 8.5 กิโลกรัม บรรจุของภายในได้ถึง 30 ลิตร ซึ่งตู้เย็นรุ่นนี้มีความโดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยประตูตู้เย็นแบบกระจกใสที่ทำให้มองเห็นสิ่งของภายในตู้เย็นได้โดยไม่ต้องเปิดประตู ใช้ระบบทำความเย็นแบบ Dual – Core สามารถทำความเย็นได้ 8 – 18 องศาทำให้ตู้เย็นรุ่นนี้เหมาะสำหรับการแช่น้ำดื่ม หรือแช่ผักผลไม้ให้คงความสดได้เป็นอย่างดี

วิธีการเลือกซื้อตู้เย็นเล็ก

  • เลือกตามรูปแบบการใช้งาน สำหรับการเลือกตู้เย็นเล็กมาใช้งานนั้น สิ่งแรกที่ต้องนำมาใช้ในการตัดสินใจคือรูปแบบการใช้งานนั่นเอง เพราะว่าตู้เย็นเล็กก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความจุ หรือลักษณะเฉพาะในการใช้งาน ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อตู้เย็นเล็กควรตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าจะนำมาใช้งานในรูปแบบไหน อย่างเช่นนำมาแช่อาหาร และน้ำดื่ม แช่เครื่องสำอาง หรือใช้งานแบบอื่นๆ เมื่อรู้ว่าจะนำมาใช้งานรูปแบบไหนก็สามารถเลือกตู้เย็นเล็กให้ตรงกับความต้องการ 
  • เลือกตามปริมาณของที่จะแช่ ตู้เย็นเล็กนั้นมีหลากหลายขนาดความจุ โดยส่วนมากจะเริ่มตั้งแต่ 1.6 – 6 คิว ซึ่งยิ่งมีความจุมากก็จะมีขนาดใหญ่มากขึ้น ดังนั้นการเลือกซื้อตู้เย็นเล็กควรคำนึงถึงปริมาณสิ่งของต่างๆ ที่จะนำมาแช่ด้วย เพราะถ้าเลือกตู้เย็นขนาดที่ไม่สัมพันธ์กับปริมาณของโดยถ้าตู้เย็นต้องบรรจุของแน่นจนเกินไปก็จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก สิ้นเปลืองพลังงาน และอาจชำรุดก่อนเวลาอันควร ถ้าเลือกตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่เกินไปก็จะเปลืองเนื้อที่ เปลืองพลังงาน 
  • เลือกตามระดับเสียง ตู้เย็นขนาดเล็กนั้นควรเป็นตู้เย็นที่ไม่มีเสียงรบกวนขณะทำงานเพราะส่วนมากจะถูกนำมาตั้งไว้ในห้องนอน ถ้ามีเสียงดังจะรบกวนการพักผ่อน ซึ่งความดังของตู้เย็นเล็กที่จะไม่รบกวนการพักผ่อนควรมีความดังไม่เกิน 25 dB
  • เลือกขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ การนำตู้เย็นเล็กมาใช้งานนั้นส่วนมากจะเป็นการนำมาใช้งานในพื้นที่ซึ่งมีขนาดเล็ก ไม่สามารถวางตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อตู้เย็นเล็กควรวัดขนาดของพื้นที่ซึ่งคาดว่าจะนำตู้เย็นเล็กมาติดตั้งก่อน เพื่อที่เวลาไปซื้อตู้เย็นจะได้เลือกตู้เย็นที่มีขนาดเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องขยับ หรือจัดพื้นที่ใหม่เพื่อให้สามารถนำตู้เย็นมาวางนั่นเอง 
  • เลือกที่ระบบละลายน้ำแข็ง ตู้เย็นเล็กบางรุ่นนั้นสามารถทำความเย็นสะสมได้ขนาดที่เกิดเป็นน้ำแข็งเกาะภายในช่องแช่แข็งของตู้เย็น ดังนั้นการเลือกตู้เย็นมาใช้งานถ้าเป็นรุ่นที่มีช่องแช่แข็ง ควรเลือกตู้เย็นประเภทที่มีระบบละลายน้ำแข็งมาด้วย โดยระบบที่ควรเลือกหามาใช้คือตู้เย็นที่ละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ หรือกึ่งอัตโนมัติ
  • เลือกที่การประหยัดพลังงาน ตู้เย็นเล็กบางรุ่นนั้นมีความสามารถในการสร้างความเย็นได้สูงมาก ซึ่งอาจจะทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าตู้เย็นเล็กรุ่นอื่นๆ ดังนั้นการเลือกตู้เย็นเล็กมาใช้งานต้องเลือกที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เท่านั้น 
  • ต้องมีแผ่นกันความร้อนด้านบน การมีแผ่นกันความร้อนด้านบนของตู้เย็นเล็กนั้นเรียกได้ว่าสำคัญ เนื่องจากผู้ใช้งานมักนำส่องต่างๆ ไปวางไว้บนหลังตู้เย็นเล็กอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นไมโครเวฟ กาน้ำร้อน หรือหม้อหุงข้าวเป็นต้น ดังนั้นการมีแผ่นกันความร้อนด้านบนจะช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นเล็กได้เป็นอย่างดี

คำถามที่พบบ่อยของตู้เย็นเล็ก

การวัดขนาดตู้เย็นเป็นคิวนั้นมาจากคำว่าคิวบิกฟุตนั่นเอง ซึ่งการวัดขนาดตู้เย็นเป็นคิวบิกฟุตสามารถทำได้ด้วยการนำขนาดของตู้เย็นทั้ง 3 ด้านคือ กว้าง x ยาว x สูง โดยใช้หน่วยเป็นฟุต ยกตัวอย่างเช่น กว้าง 2 ฟุต สูง 3 ฟุต ลึก 2 ฟุต = 2 x 3 x 1 ก็จะได้เป็นขนาดของตู้เย็นคือ 6 คิวบิกฟุต หรือตู้เย็นขนาด 6 คิวนั่นเอง

สำหรับการเลือกความจุของตู้เย็นขนาดเล็กตามรูปแบบการใช้งานนั้นเรียกได้ว่าไม่มีกฎตายตัว แต่ก็มีวิธีการคำนวณคร่าวๆ ที่ค่อนข้างเหมาะสม โดยสามารถคำนวณได้ดังนี้ ตู้เย็นเล็กขนาดไม่เกิน 1.8 คิวเหมาะสำหรับใช้แช่เครื่องดื่ม หรือขนมเล็กน้อย ตู้เย็นเล็กขนาด 1.8 – 3.5 คิวเหมาะสำหรับการแช่เครื่องดื่ม ขนม รวมไปถึงวัตถุดิบสำหรับการทำอาหารเป็นครั้งคราว ไม่ใช่การทำอาหารเป็นประจำ ตู้เย็นเล็กขนาด 3.5 – 4.5 คิวเหมาะสำหรับผู้ที่ทำอาหารทานเป็นประจำแต่ไม่ใช่ครอบครัวขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับ 1 – 2 คน ตู้เย็นขนาด 4.5 – 6 คิวเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกักตุนอาหาร หรือทำอาหารคราวละมากๆ

การใช้งานตู้เย็นเล็กหลายๆ ตู้แทนการใช้งานตู้เย็นใหญ่เพียงตู้เดียวนั้นสามารถทำได้ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องแยกประเภทของสิ่งของที่ต้องการแช่ไม่ให้ปะปนกันยกตัวอย่างเช่นการแช่ยาหลายๆ ประเภทเพื่อที่ให้หยิบใช้สะดวก และไม่ปะปนกับสิ่งของประเภทอื่นๆ แต่ถ้าไม่ได้มีความจำเป็นขนาดนั้นการใช้ตู้เย็นเล็กหลายตู้แทนการใช้ตู้เย็นขนาดใหญ่เพียง 1 ตู้เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะนอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานแล้ว ยังดูแลรักษาได้ยากอีกด้วย

Scroll to Top