สำหรับการเดินทางในยุคปัจจุบันนั้นมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นหลากหลายรูปแบบตามแต่ความสะดวก และความชอบของแต่ละบุคคลนั่นเองที่แตกต่างกันไป ซึ่งหลายๆ คนเลือกจะเดินทางด้วยพาหนะขนาดเล็กที่มีความสะดวกอย่างเช่น “จักรยานไฟฟ้า” เนื่องจากไม่ต้องกลัวที่จะเจอปัญหารถติด ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ อีกทั้งยังสามารถตอบโจทย์ในการเดินทางระยะใกล้ และการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้ลองมาดูกันว่าจักรยานพับได้แบรนด์ไหนบ้างที่ควรมีไว้ใช้ในปี 2022
ลองมาดูกันว่า 10 อันดับจักรยานไฟฟ้า แต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ
1
LULAE V8
ทนทานทุกสภาวะ ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 45 กิโลเมตร
สำหรับ LULAE V8 เป็นจักรยานไฟฟ้าแบบ 2 ที่นั่งขนาดพอเหมาะ ซึ่งมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ มาช่วยเพิ่มความสะดวก และความปลอดภัยอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว เบาะนั่งมีความกว้างขวาง รวมไปถึงหน้าจอแสดงผล Digital ที่สามารถกันน้ำได้ ทำให้การขับขี่ในขณะฝนตกไม่ได้เป็นปัญหาอีกต่อไป การชาร์จไฟเต็มใช้เวลาประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร
2
HIMIWAY
ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานได้ในทางลาดชัน
HIMIWAY เป็นจักรยานไฟฟ้าที่ตอบสนองการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการขับขี่ใช้งานภายในเมือง เนื่องจากสามารถขึ้นทางชันได้ถึง 30 องศา ตัวจักรยานนั้นเป็นแบบ 2 ที่นั่ง มีขนาดกะทัดรัด ปราดเปรียว น้ำหนักเบา ใช้มอเตอร์ขนาด 48 V กำลังไฟ 350 W ใช้เวลาในการชาร์จจนเต็มอยู่ที่ 8 – 12 ชั่วโมง เมื่อมีพลังไฟเต็มที่สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร มีระบบรีโมทกันขโมย
3
INMOTION P2 2019 Folding Electric Bike
จักรยานไฟฟ้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี
สำหรับ INMOTION P2 2019 Folding Electric Bike เป็นจักรยานไฟฟ้าแบบพับได้ซึ่งช่วยให้มีความสะดวกมากขึ้นในการจัดเก็บ หรือพกพาไปใช้งานในที่ต่างๆ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ทำมาจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ AIRCRAFT-Grade มีความคงทนแข็งแรง น้ำหนักเบา พร้อมระบบ Cruise control แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบตเตอรี่ลิเที่ยมคุณภาพสูงจาก LG นอกจากนี้ยังมีช่องต่อ USB เพื่อรองรับการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ ได้อีกด้วย
4
ADIMAN 65657
ขี่ได้ถึงทุกจุดหมายด้วยการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียว
ADIMAN 65657 เป็นจักรยานไฟฟ้าที่มีจุดเด่นในเรื่องของการทำระยะทางในการขี่ได้ค่อนข้างไกลต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง โดยจักรยานรุ่นนี้สามารถขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตรเลยทีเดียว ซึ่งมอเตอร์ที่ใช้มีขนาด 400 W ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 30 กิโลเมตร / ชั่วโมง นอกจากจะขี่ได้ไกลแล้ว ยังสามารถรับน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 250 กิโลกรัม ทำให้เป็นจักรยานที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว
5
JIESUQI
จัดเต็มทุกฟังก์ชันเพื่อความสบายในการขับขี่
ถ้ากล่าวถึงจักรยานไฟฟ้าแบบพับได้ที่น่าสนใจแล้วนั้น JIESUQI น่าจะเป็นชื่อที่หลายๆ คนให้การยอมรับ ซึ่งจักรยานรุ่นนี้มีขนาด 14 นิ้วมาพร้อมฟังก์ชันต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มสะดวกสบายในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นระบบสตาร์ทรถด้วยรีโมท เบาะนั่ง และมือจับสามารถปรับความสูงได้หลายระดับ มีดิสก์เบรกหน้า – หลังเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ เรียกได้ว่าครบครันทุกรูปแบบการใช้งาน
6
USA G-force G14
ชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว เพื่อการเดินทางที่สะดวกมากยิ่งขึ้น
สำหรับ USA G-force G14 เป็นจักรยานไฟฟ้าแบบพับได้ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในเมืองอีกหนึ่งรุ่น เพราะว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ 4 – 6 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมาก สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 25 กิโลเมตร / ชั่วโมง ขับขี่ได้ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร ส่วนโครงสร้างของจักรยานทำมาจากวัสดุที่มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้สูงสุดที่ 150 กิโลกรัม
7
Zendrian ZYU-2 Smart Electric Bike
จักรยานไฟฟ้ามาตรฐานสหรัฐอเมริกา มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพ
Zendrian ZYU-2 Smart Electric Bike เป็นจักรยานไฟฟ้าขนาดเล็กที่สามารถพกพาไปใช้งานในสถานที่ต่างๆ ได้สะดวก การผลิตได้มาตรฐานของประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนโครงสร้างของจักรยานทำมาจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ทำให้มีน้ำหนักที่เบาแต่มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้มากถึง 120 กิโลกรัม มีระบบ Cruise control ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 45 กิโลเมตร / ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถเลือกได้ว่าจะใช้งานด้วยระบบไฟฟ้า หรือจะปั่นเหมือนจักรยานแบบปกติ
8
Gi Ebike R1 black out serie
ออกมาเพื่อความสะดวกในการพกพาด้วยระบบพับได้ 3 ระดับ
สำหรับ Gi Ebike R1 black out serie เป็นจักรยานไฟฟ้าแบบพับได้ถึง 3 ระดับที่จะช่วยให้การพกพานั้นทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โครงสร้างของจักรยานทำมาจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ในส่วนของการทำงานนั้นจักรยานรุ่นนี้ใช้มอเตอร์ขนาด 250 W ร่วมกับแบตเตอรี่ลิเที่ยมคุณภาพสูง การชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้งใช้เวลา 4 – 6 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 30 กิโลเมตร / ชั่วโมง
9
JIESUQI SMLRO
จักรยานไฟฟ้าที่พร้อมลุยในทุกสภาพถนน
สำหรับ JIESUQI SMLRO เป็นจักรยานไฟฟ้าแบบพับได้ที่เป็นรูปทรงของจักรยานเสือภูเขา ทำให้สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพถนนไม่ว่าจะเป็นทางเรียบ หรือทางขรุขระ ใช้แบตเตอรี่ระบบลิเที่ยมโพลิเมอร์ พร้อมระบบช่วยปั่นที่จะช่วยให้ใช้งานได้เป็นระยะทางถึง 90 กิโลเมตร เพิ่มสมรรถนะในการลุยด้วยส่วนประกอบคุณภาพสูงไม่ว่าจะเป็นล้อ ยาง เบรก ระบบรองรับแรงกระแทก ระบบเกียร์ และมีหน้าจอ Digital ขนาดใหญ่เพื่อแสดงสถานะต่างๆ ระหว่างการใช้งาน
10
LULAE V10
ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
LULAE V10 เป็นจักรยานไฟฟ้าแบบ 3 ล้อที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่นั่นเอง โดยเฉพาะความปลอดภัยสำหรับเด็ก และผู้สูงอายุ ซึ่งจักรยานรุ่นนี้ตอบโจทย์ได้หลากหลายรูปแบบการใช้งาน เนื่องจากมีตะกร้า และพื้นที่วางของค่อนข้างกว้าง ทำให้สามารถใช้เป็นจักรยานเพื่อไปตลาด หรือไปซื้อของก็ได้ หรือใช้สำหรับเดินทางในระยะทางที่ไม่ไกลนักก็ได้ พร้อมระบบรับแรงกระแทกที่จะช่วยให้การขับขี่สบายยิ่งขึ้น
วิธีการเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้า
- เลือกจากจุดประสงค์การใช้งาน การเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้ามาเพื่อใช้งานนั้นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือรูปแบบของการใช้งานนั่นเอง เพราะว่าจักรยานไฟฟ้าแต่ละรุ่นมีการออกแบบมาเพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรตัดสินใจให้ได้ก่อนว่าจะซื้อมาใช้เพื่ออะไร ยกตัวอย่างเช่นใช้เพื่อเดินทางระยะใกล้ หรือเพื่อซื้อของแถวบ้าน ก็ควรเลือกจักรยานไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ ใส่ของได้เยอะ หรือซื้อมาใช้เพื่อการเดินทางไปยังที่ต่างๆ มีการใช้ร่วมกับระบบขนส่งอื่นๆ การเลือกควรเลือกที่มีขนาดเล็ก พับได้ น้ำหนักไม่เยอะเป็นต้น
- เลือกจากความปลอดภัย สำหรับการใช้งานจักรยานไฟฟ้านั้นไม่ได้ต่างจากรถจักรยานแบบปกติ หรือมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก ทำให้การใช้งานมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เสมอ ดังนั้นการเลือกจักรยานไฟฟ้ามาใช้งานต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย ไม่ว่าจะเป็นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ของจักรยานไฟฟ้าที่ต้องมีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยมาให้ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟเบรก ระบบเบรก และล้อที่มีคุณภาพ นอกจากนี้เบาะนั่ง และมือจับควรปรับระดับได้เพื่อให้เหมาะสมกับรูปร่างของผู้ใช้งานมากที่สุด
- เลือกจากระยะทางในการขับขี่ ผู้ใช้งานจักรยานไฟฟ้าแต่ละคนล้วนมีระยะทางในการขับขี่ที่ไม่เท่ากันในแต่ละวัน ซึ่งจักรยานไฟฟ้าแต่ละรุ่นก็สามารถทำระยะทางในการขับขี่ได้ไม่เท่ากัน ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าควรคำนวณถึงระยะทางที่ต้องใช้งานเป็นประจำในแต่ละวัน แล้วจึงค่อยตัดสินใจเลือกหาจักรยานไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้เหมาะสมนั่นเอง
- เลือกจากราคา จักรยานไฟฟ้าที่มีขายอยู่ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายราคา หลากหลายคุณภาพ การเลือกจักรยานไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้งานควรพิจารณาในเรื่องของราคาด้วย เพราะการซื้อจักรยานไฟฟ้าที่มีราคาสูง มีระบบต่างๆ มากมายอาจจะเป็นการซื้อที่เกินความจำเป็น ซึ่งอาจจะเป็นการสิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ ส่วนการซื้อจักรยานไฟฟ้าที่มีราคาถูกจนเกินไปอาจจะได้จักรยานไฟฟ้าที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้งานได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นการเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าควรเลือกรุ่นที่มีราคาเหมาะสมกับคุณสมบัติต่างๆ ที่จำเป็นในการใช้งานของเรานั่นเอง
- เลือกจากการรับประกัน และบริการหลังการขาย จักรยานไฟฟ้านั้นเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างจักรยานกับมอเตอร์ไซค์ ทำให้การหาที่ซ่อมนั้นจะทำได้ค่อนข้างยากเนื่องจากมีระบบที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าเพื่อมาใช้งานสิ่งที่จำเป็นต้องนำมาช่วยตัดสินใจคือการรับประกัน และบริการหลังการขายนั่นเอง ซึ่งสิ่งที่ควรมีการรับประกัน และมีบริการหลังการขายของจักรยานไฟฟ้าคือมอเตอร์ และแบตเตอรี่ เนื่องจากเป็นส่วนที่ซ่อมแซมได้ยาก และต้องอาศัยอะไหล่เฉพาะ การเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าจึงไม่ควรมองข้าม 2 เรื่องนี้เป็นอันขาด