สำหรับอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ซึ่งควรมีติดบ้านไว้นั่นคือ “กระติกน้ำแข็ง” เพราะว่าอุปกรณ์ชนิดนี้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใส่น้ำแข็งเพื่อใช้สำหรับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการทานอาหารภายในบ้าน หรือจะพกพาเพื่อใช้ในระหว่างการท่องเที่ยว สามารถเก็บอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นความร้อน หรือความเย็น ลองมาดูกันว่ากระติกน้ำแข็งที่ควรมีไว้ใช้งานสำหรับปี 2022 นั้นมีรุ่นไหนบ้าง
ลองมาดูกันว่า 10 อันดับกระติกน้ำแข็ง แต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ
1

Super 4.5L ice cooler
ขนาดเล็ก พกพาสะดวก เก็บอุณหภูมิได้ดี
สำหรับ Super 4.5L ice cooler เป็นกระติกน้ำแข็งขนาด 4.5 ลิตร ซึ่งมีขนาดกำลังพอเหมาะในการพกพาไปใช้งานยังสถานที่ต่างๆ ด้วยขนาด 25 x 20.8 x 22.5 เซนติเมตร รวมไปถึงมีสายสะพายเพื่อเพิ่มความสะดวก ตัวกระติกทำมาจากพลาสติก PP คุณภาพสูง ทนต่อแรงกระแทก มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ส่วนความสามารถในการเก็บอุณหภูมินั้น กระติกรุ่นนี้สามารถเก็บความเย็นได้นานถึง 48 ชั่วโมงเลยทีเดียว
2

TRAIN WARE
กระติกทรงกลมคลาสสิกที่ใช้งานได้อย่างทนทาน
TRAIN WARE เป็นกระติกน้ำแข็งรูปทรงกลมที่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเห็น และเคยใช้งานมาก่อน เนื่องจากกระติกรูปทรงนี้ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในสมัยก่อน เนื่องจากมีขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก นิยมใส่น้ำ และน้ำแข็งลงไปรวมกันเพื่อความสะดวกในการใช้งาน วัสดุที่ – นำมาผลิตกระติกรุ่นนี้เป็นพลาสติก PP คุณภาพสูง มีความทนทาน สามารถเก็บความเย็นได้ประมาณ 8 – 9 ชั่วโมง ซึ่งนอกจากเก็บความเย็นแล้ว ยังสามารถเก็บความร้อนได้อีกด้วย
3

YETI Tundra 35
มั่นใจได้คุณภาพจากแบรนด์ระดับโลก
สำหรับแบรนด์ YETI นั้นเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่ามีคุณภาพเป็นเยี่ยมสำหรับอุปกรณ์เก็บอุณหภูมิประเภทต่างๆ ซึ่ง YETI Tundra 35 เป็นกระติกน้ำแข็งอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ มาพร้อมความจุขนาด 35 ลิตร ที่เรียกว่าใหญ่จุใจ ผลิตด้วยการขึ้นรูปแบบ Rotomolded Construction เพื่อความทนทาน พร้อม PermaFrost ฉนวนกันความร้อนแบบโพลียูรีเทน และ Fatwall เพื่อเพิ่มพื้นที่ใส่ฉนวนกันความร้อนได้หนามากกว่า 2 นิ้ว ทำให้สามารถเก็บน้ำแข็งได้นานประมาณ 48 – 72 ชั่วโมง
4

Dohome HH-9405-IL
ราคาประหยัดคุ้มค่าการทุกรูปแบบการใช้งาน
Dohome HH-9405-IL เป็นกระติกน้ำแข็งขนาด 38.5 x 19.0 x 26.5 เซนติเมตร ความจุ 10 ลิตร เรียกได้ว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมในการใช้งานสำหรับครอบครัวประมาณ 3 – 4 คน เนื่องจากไม่เล็ก และไม่ใหญ่จนเกินไป เคลื่อนย้ายได้สะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัม กระติกรุ่นนี้มีการเสริมประสิทธิภาพในการเก็บความเย็นด้วยฉนวนกันความร้อนแบบ EPS ทำให้สามารถเก็บความเย็นได้ประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง วัสดุที่นำมาใช้มีความปลอดภัยสำหรับการใส่อาหารเพื่อใช้บริโภค
5

DOMETIC Cool Ice Box WCI33
รักษาความสดของอาหารได้อย่างดีเยี่ยม
สำหรับ DOMETIC Cool Ice Box WCI33 เป็นกระติกน้ำแข็งจากประเทศสวีเดน ซึ่งกระติกรุ่นนี้มีขนาด 40 x 44 x 36 เซนติเมตร ความจุ 33 ลิตร ตัวถังผลิตจากพลาสติก Polyethylene แบบขึ้นรูป ไร้รอยต่อ มั่นใจได้ในความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัม บานพับทำมาจาก Stainless ไร้สนิม สามารถเก็บความเย็นได้นานสุดถึง 72 ชั่วโมง และสามารถใช้งานร่วมกับ Icepack เพื่อรักษาความสดของอาหารได้ยาวนานยิ่งขึ้น
6

Everest AG550
จุน้ำแข็งได้เยอะ พร้อมล้อลากเคลื่อนย้ายสะดวก
Everest AG550 เป็นกระติกน้ำแข็งอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากกระติกรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ถึง38 x 75 x 38.5 เซนติเมตร มีความจุ 55 ลิตร ทำให้สามารถจุน้ำแข็งได้เยอะ รวมไปถึงมีล้อลากเพื่อเพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้าย ที่สำคัญคือมีราคาไม่สูงจนเกินไป ใช้งานได้อย่างสะดวกด้วยฝาเปิดปิดขนาดเล็กด้านบน สามารถเก็บความเย็นได้นานที่สุดประมาณ 24 ชั่วโมง
7

COLEMAN 70 Qt EXTREME
เก็บความเย็นได้นานสูงสุดถึง 5 วัน
สำหรับ COLEMAN 70 Qt EXTREME เป็นกระติกน้ำแข็งคุณภาพเยี่ยมจาก COLEMAN แบรนด์อุปกรณ์กลางแจ้งที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยกระติกรุ่นนี้มีขนาด 71.3 x 44.9 x 39.3 เซนติเมตร ความจุ 66 ลิตร เหมาะสำหรับการใช้งานนอกสถานที่ หรือการตั้งแคมป์เป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถเก็บของได้เป็นปริมาณมาก และด้วยเทคโนโลยีฉนวนกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถเก็บความเย็นได้ยาวนานถึง 5 วันเลยทีเดียว
8

ALASKAN HARD GEAR 35
ผลิตจากวัสดุ Food Grade มั่นใจได้ในความปลอดภัย
ALASKAN HARD GEAR 35 จัดว่าเป็นกระติกน้ำแข็งคุณภาพสูงอีกหนึ่งรุ่นที่ควรมีไว้ใช้งาน กระติกรุ่นนี้มีขนาด 40 x 53 x 38 เซนติเมตร ความจุ 27.5 ลิตร ตัวกระติกผลิตมาจาก Polyethylene ขึ้นรูปแบบไร้รอยต่อด้วยเทคโนโลยี Rotational Molding ซึ่งมีความทนทาน แข็งแรง อีกทั้งยังเป็นวัสดุที่ผ่านมาตรฐาน Food Grade ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถใส่อาหารได้อย่างปลอดภัย ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถเก็บความเย็นได้ยาวนาน 3 – 6 วัน
9

Naturehike Ice Chest Cooler Box For Picnic
กระติกน้ำแข็งสไตล์ Minimal เรียบง่ายแต่คุ้มค่า
Naturehike Ice Chest Cooler Box for Picnic เป็นกระติกน้ำแข็งที่ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายในสไตล์ Minimal แต่ครบครันไปด้วยประโยชน์ใช้สอย ตัวกระติกมีขนาด 43 x 34 x 42.5 เซนติเมตร ความจุ 28 ลิตร ตัวกระติกด้านนอกผลิตมาจากพลาสติก PE มีความแข็งแรงทนทาน ฉนวนกันความร้อนเป็นแบบ PU Foaming เคลื่อนย้ายสะดวกด้วยล้อเลื่อน และด้ามจับที่สามารถปรับระดับได้ เก็บความเย็นได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง
10

STANLEY Adventure Outdoor Cooler 16Qt
ช่วยเติมความสดชื่นให้กับการทำงานกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี
สำหรับแบรนด์เครื่องมือช่างอย่าง STANLEY นั้นมีกระติกน้ำแข็งรุ่น STANLEY Adventure Outdoor Cooler 16Qt เพื่อรองรับการออกไปทำงานกลางแจ้งนั่นเอง โดยกระติกรุ่นนี้มีขนาด 16.73 x 12.80 x 11.22 นิ้ว บรรจุเครื่องดื่มได้มากถึง 21 กระป๋อง ฉนวนกันความร้อนเป็นแบบ Double-wall Foam ที่ช่วยเก็บความเย็นได้นานถึง 36 ชั่วโมง อีกทั้งยังปลอดสาร BPA มั่นใจได้ในความปลอดภัย
วิธีการเลือกซื้อกระติกน้ำแข็ง
- เลือกจากรูปแบบการใช้งาน กระติกน้ำแข็งนั้นมีให้เลือกหลากหลายขนาด หลากหลายราคา ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นใส่น้ำแข็งเพื่อใช้ระหว่างวัน ใส่น้ำแข็งเพื่อกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลาหลายวัน หรือใช้เก็บอาหารประเภทต่างๆ ซึ่งการเลือกกระติกน้ำแข็งเพื่อนำมาใช้งานนั้นควรคำนึงถึงรูปแบบการใช้งานที่จำเป็นต้องใช้เป็นประจำนั่นเอง เพราะจะทำให้กระติกน้ำแข็งที่เข้ากับรูปแบบการใช้งานมากที่สุด
- เลือกจากขนาดที่เหมาะสม สำหรับขนาดของกระติกน้ำแข็งน้ำแข็งนั้นก็มีให้เลือกใช้งานมากมาย ตั้งแต่ใส่น้ำแข็งได้เพียงแค่ 1 ถุงเล็ก หรือสามารถใส่น้ำแข็งได้ทั้งกระสอบ ซึ่งการเลือกขนาดของกระติกน้ำแข็งจัดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงเคลื่อนย้ายได้สะดวก ดังนั้นจึงควรเลือกขนาดของกระติกน้ำแข็งให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ใช้ และจำนวนคนที่ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่นการไปค้างคืนกลางแจ้งเป็นเวลา 1 คืน มีจำนวนคนประมาณ 4 คน ขนาดกระติกที่เหมาะสมต้องมีความจุประมาณ 40 – 50 ลิตรขึ้นไปจึงจะสามารถใช้งานได้อย่างสบาย แต่ถ้าต้องแช่เครื่องดื่ม หรืออาหารด้วยกระติกต้องมีความจุเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากจะเสียเนื้อที่ให้กับการแช่เครื่องดื่มนั่นเอง
- เลือกจากระยะเวลาในการเก็บความเย็น การเลือกระยะเวลาในการเก็บความเย็นของกระติกน้ำแข็งนั้นจะช่วยให้การใช้งานกระติกน้ำแข็งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองรูปแบบการใช้งานได้อย่างเต็มที่ เพราะถ้ากระติกน้ำแข็งนั้นไม่สามารถเก็บความเย็น หรือน้ำแข็งละลายเร็วกว่าความต้องการในการใช้งานก็จะทำให้ต้องเปลืองเวลาเติมน้ำแข็งบ่อยๆ หรือถ้าอยู่ในพื้นที่ซึ่งไม่มีน้ำแข็งขายก็อาจจะเกิดปัญหาได้ ดังนั้นการเลือกกระติกน้ำแข็งที่มีระยะเวลาในการเก็บความเย็นได้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งกระติกน้ำแข็งในปัจจุบันนั้นสามารถเก็บความเย็นได้ตั้งแต่ 4 – 144 ชั่วโมงเลยทีเดียว เรียกได้ว่าสามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ
- เลือกจากความแข็งแรง วัสดุที่นำมาใช้ทำกระติกน้ำแข็งนั้นส่วนมากจะเป็นพลาสติกประเภทต่างๆ ซึ่งความแข็งแรง ทนทาน อาจจะแตกต่างกันไปตามประเภทของวัสดุ และกรรมวิธีการผลิต ดังนั้นการเลือกกระติกน้ำแข็งมาใช้งาน โดยเฉพาะการใช้งานกลางแจ้งที่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายกระติกน้ำแข็งไปยังสถานที่ต่างๆ จึงควรพิจารณาเรื่องความแข็งแรงเป็นสำคัญ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการกระแทก ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายได้ โดยกระติกน้ำแข็งที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษส่วนมากจะเป็นกระติกน้ำแข็งที่ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยี Rotational Molding หรือการฉีดขึ้นรูปแบบไร้รอยต่อนั่นเอง
- เลือกจากความสะดวกในการเคลื่อนย้าย กระติกน้ำแข็งนั้นมีหลากหลายขนาด หลากหลายน้ำหนัก ซึ่งถ้าเป็นกระติกเปล่าส่วนมากจะมีน้ำหนักไม่มาก เคลื่อนย้ายได้ง่าย แต่ถ้าใส่น้ำแข็งเข้าไปจนเต็มจะกลายเป็นกระติกที่มีน้ำหนักมากตามปริมาณน้ำแข็งที่ใส่เข้าไป ยิ่งกระติกน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ ยิ่งมีน้ำหนักมาก ดังนั้นการเลือกกระติกน้ำแข็งแบบที่มีล้อเลื่อนเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะล้อเลื่อนนั้นจะช่วยให้การเคลื่อนย้ายกระติกน้ำแข็งขณะที่มีน้ำแข็งอยู่เต็มได้อย่างสะดวก และไม่เหนื่อยแรง